ระวังโจรไซเบอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ หลอกเงินบริษัทต่างชาติ

โจรไซเบอร์
ภาพจาก PIXABAY

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ออกโรงเตือนประชาชนและธุรกิจระวังโจรไซเบอร์ ขยายไปถึงนิติบุคคลต่างชาติ ลั่น! ไม่เอาไว้ ตั้งคณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คอยจับตาโจรไซเบอร์ ย้ำวิธีระวังตนเอง 4 คาถายังต้องทำต่อไป

วันที่ 27 มกราคม 2566 นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและผู้เสียหาย ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรม ขอให้อัพเดตข้อมูลนิติบุคคล

โดยใช้กลอุบายให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นไลน์ที่เป็นบัญชีปลอม เพื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ บัตรประชาชน อีเมล์ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น จากนั้นมิจฉาชีพจะเข้าระบบดูดเงินจากในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายออกไป

Advertisement

ซึ่งกรมได้ประกาศแจ้งเตือนอยู่เป็นระยะรวมถึงวิธีการป้องกันตัวเองเพื่อให้นิติบุคคลและประชาชนระมัดระวังตัว ไม่หลงเชื่อ และกรมไม่มีนโยบายที่จะติดต่อหรือทักหาประชาชนไปก่อน หรือให้อัพเดตข้อมูลผ่านระบบไลน์

“ขณะนี้มีประชาชนผู้ประสบเหตุและผู้เสียหายได้ติดต่อมายังกรมจำนวนเพิ่มขึ้น ผ่านทางสายด่วน 1570 อีเมล์ และช่องทาง Social Media ของกรม เพื่อแจ้งถึงกรณีดังกล่าว มากไปกว่านั้นยังขยายความเดือดร้อนไปถึงนิติบุคคลต่างประเทศที่จดทะเบียนในประเทศไทย”

“ซึ่งใช้กลอุบายหลอกลวงแบบเดียวกัน แต่เป็นรูปแบบภาษาอังกฤษ ซึ่งการกระทำนี้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก และอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติได้”

Advertisement

กรมไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และได้ดำเนินการในเชิงรุก พร้อมแต่งตั้ง “คณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ขึ้น เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการหลอกลวงนี้ โดยได้รับแจ้งเรื่อง ประกอบกับให้ส่งหลักฐานที่มีสำหรับนำไปแจ้งตำรวจเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับมิจฉาชีพทุกรายที่นำชื่อและตราสัญลักษณ์ของกรมที่เป็นหน่วยงานราชการไปหลอกประชาชน

และขอแนะนำให้ผู้เสียหายควรไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้สกัดกั้นการกระทำลักษณะนี้ไม่ให้ขยายวงกว้าง รวมไปถึงกรมยังได้ส่งต่อหลักฐานให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับในภาคประชาชนและธุรกิจ กรมขอย้ำเตือนว่า การเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลในยุคนี้ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง มิเช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของโจรไซเบอร์โดยไม่รู้ตัว และการป้องกันตัวใน 4 รูปแบบยังคงมีความสำคัญคือ

Advertisement

1) ก่อนเข้าเว็บไซต์ต้องเช็กตัวสะกดของ URL ให้ดี

2) ไม่กดลิงก์/SMS/โหลดแอปพลิชั่นที่ไม่รู้จัก หรือได้รับแชร์

3) ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวน และ

4) ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หากมีข้อสงสัยและศึกษาข้อมูลอื่น ๆ ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน 1570 เว็บไซต์ www.dbd.go.th และ FB : DBD Public Relations