ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีกว่า หลังมีความกังวลด้านวิกฤตธนาคาร
วันที่ 16 มีนาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีกว่า โดยตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ทางการเงินของธนาคารเครดิต สวิส (Credit Suisse) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ หลังธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (Saudi National Bank) หรือ SNB ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของธนาคารเครดิต สวิส ประกาศว่าไม่สามารถเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินต่อเครดิตสวิส
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 15 มี.ค. 2566 อยู่ที่ 67.61 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -3.72 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 73.69 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -3.76 เหรียญสหรัฐ
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานสต๊อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 10 มี.ค. 66 ปรับเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 480.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รายงานแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันของโลกในปี’66 จะปรับเพิ่มขึ้น 2.3% สู่ระดับ 102.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันของจีนในปี’66 จะปรับเพิ่มขึ้น 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ในเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังจากที่จีนยกเลิกนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินในจีนมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 นอกจากนี้ อุปทานน้ำมันเบนซินในมาเลเซียปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลในสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ การส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
