
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มต่อ จากการปรับลดกำลังการผลิตกลุ่มโอเปกพลัส ท่ามกลางความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจโลก
วันที่ 5 เมษายน 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มเล็กน้อย หลังตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ หลังสร้างความกังวลต่ออุปทานที่อาจตึงตัวมากกว่าปัจจัยทางอุปสงค์เล็กน้อย หลังทางกลุ่มมีมติในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงกว่า 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- เปิดตัว “คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ” ห่างสนามบิน 10 นาที
- พระราชินี ทรงนำทีมแข่งขันเรือใบนานาชาติ เข้าเส้นชัยอันดับ 1
- พระราชินี เสด็จฯ ส่วนพระองค์ ทรงร่วมวิ่ง CIB RUN 2023 ระยะทาง 10 กิโลเมตร
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 4 เม.ย. 2566 อยู่ที่ 80.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.29 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 84.94 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.01 เหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงกังวลต่อเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ หลังสหรัฐเผยเลขตำแหน่งงานว่างที่เปิดรับปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ในสหรัฐและจีน ปรับตัวลดลงจากระดับ 47.7 และ 51.6 ในเดือน ก.พ. เหลือเพียง 46.3 และ 50.0 ตามลำดับ ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) เผยเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สัปดาห์สิ้นสุด 31 มี.ค. 66 ปรับตัวลดลดกว่า 4.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 471.3 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับลดลงเพียง 2.3 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์การนำเข้าน้ำมันเบนซินจากอินโดนีเซียมีแนวโน้มทรงตัวจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่อยู่ในระดับสูง ถึงแม้ก่อนหน้าจะเกิดเหตุระเบิดที่โรงกลั่น Pertamina ทางตะวันตกของประเทศก็ตาม
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลทรงตัวขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังอุปสงค์ในภูมิภาคยังคงทรงตัว ขณะที่อุปทานในภูมิภาคยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากประเทศจีน ที่มีแนวโน้มลดลงในเดือน เม.ย.