ดันส่งออก “อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า” จากพลังงานแสงอาทิตย์สู่ตลาดสิงคโปร์

ดันส่งออกอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เข้าตลาดสิงคโปร์ รับนโยบายเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 1 ใน 5 ภายในปี’63

นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ ถึงแนวโน้มการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนในสิงคโปร์ โดยพบว่าสิงคโปร์ได้เดินหน้าผลักดันการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสดงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการพลังงานทดแทนของไทยที่จะส่งออกอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือการเข้าไปลงทุนผลิตไฟฟ้าในสิงคโปร์ เพราะนโยบายของรัฐบาลสิงคโปร์ได้ส่งเสริมการเข้ามาลงทุนของต่างชาติด้วย

“ในปี 2563 สิงคโปร์ได้ตั้งเป้าการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ที่ระดับ 350 เมกะวัตต์ และในไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 ที่ผ่านมา สิงคโปร์สามารถผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ทั้งหมด 145 เมกะวัตต์ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้ตั้งเป้าไว้ว่า ชาวสิงคโปร์ จะสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ถึง 1 ใน 5 ของพลังงานที่ชาวสิงคโปร์ใช้ทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันสิงคโปร์ใช้พลังงานเดือนละประมาณ 7,000 เมกะวัตต์” นางจันทิรากล่าว

ขณะเดียวกัน รัฐบาลสิงคโปร์ได้มอบทุนวิจัยกว่า 6.2 ล้านเหรียญสิงคโปร์ และมอบเงินสนับสนุนกว่า 17.8 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ในการพัฒนาระบบจัดเก็บพลังงานในระดับสำหรับสาธารณูปโภคในสิงคโปร์ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในสิงคโปร์ ก็มีอุปสรรค โดยอาจได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากสิงคโปร์ซื้อก๊าซธรรมชาติในราคาที่เชื่อมโยงกับราคาน้ำมันโลก

ปัจจุบัน Green หรือ “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” กำลังเป็นที่นิยมในสิงคโปร์ และในปี 2562 สิงคโปร์จะขึ้นภาษีคาร์บอนมีอัตราอยู่ระหว่าง 10-20 เหรียญสิงคโปร์ต่อตัน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และขณะนี้ การผลิตไฟฟ้าในสิงคโปร์ 95% เป็นการผลิตจากก๊าซธรรมชาติ และผู้ประกอบการด้านพลังงาน
ในสิงคโปร์หันไปผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กันมากขึ้น เช่น บริษัท Sembcorp Industries ได้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยใช้แผง Solar ติดไว้ที่สนามบิน Changi สิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมี บริษัท ST Aerospace บริษัท Senoko Energy และบริษัท Sunseap Group เป็นต้น