
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน และในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ.ได้พิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนงวดใหม่(พ.ค.-ส.ค.61) ไว้คงเดิมที่ติดลบ 15.90 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟ้ฟ้าเฉลี่ยเรียกเก็บรวมค่าไฟฟ้าฐานอยู่ที่ 3.5966 บาทต่อหน่วย (ไม่รวม VAT) ซึ่งถือเป็นการตรึงค่าไฟ 3 งวดติดต่อกัน
ทั้งนี้ หากคิดเชื้อเพลิงทุกชนิด ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเตา ถ่านหินที่เป็นปัจจัยหลักในการผลิตไฟฟ้ามีต้นทุนและอื่นๆ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติที่ปรับสูงถึง 12.51 บาทต่อล้านบีทียูโดยมาอยู่ที่ 262.02 บาทต่อล้านบีทียู และค่าเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้นจาก 33.32 บาทต่อเหรียญสหรัฐเป็น 32.05 บาทต่อเหรียญฯ ทำให้ค่า Ft โดยรวมจะต้องปรับขึ้น 8.61 สตางค์ต่อหน่วยสตางค์แต่เนื่องจากมีเงินสะสมมาตั้งแต่กลางปี 2560 จำนวน 11,827 ล้านบาทจึงนำมาตรึงค่าไฟงวดนี้ไว้จำนวน 5,291 ล้านบาท
“ ถ้าเรานำเงินมาตรึงหมดค่า Ft จะลดลง 10.63 สตางค์ต่อหน่วยเพราะเห็นว่าค่า Ft งวดหน้าจากการคำนวณแล้วมีแนวโน้มจะปรับขึ้นสูงมาถึง 24.87 สตางค์ต่อหน่วยจึงกันเงินไว้ที่เหลือ 6,536 บ้านบาทที่จะตรึง Ft ได้ตลอดถึงช่วงสิ้นปีนี้” นายวีระพลกล่าว สำหรับงวดนี้ความต้องการใช้ไฟช่วงพ.ค.-ส.ค.61 เท่ากับ 67,334 ล้านหน่วยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.61 เท่ากับ 5,136ล้านหน่วยคิดเป็น 8.26%
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามนโยบายภาครัฐในส่วน Adder และ FiT ในเดือนพ.ค.-ส.ค. 61 ได้ปรับเพิ่มจาก 14,494 ล้านบาทในงวดม.ค.-เม.ย. 61 มาอยู่ที่ 14,570 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 76 ล้านบาทประกอบกับประมาณการการจำหน่ายไฟในงวดใหม่จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันดังนั้นเมื่อเทียบอัตราต่อหน่วยทำให้ค่าใช้จ่ายจากเดิม 23.70 สตางค์ต่อหน่วยจะลดลง 1.88 สตางค์ต่อหน่วยหรืออยู่ที่ 25.58 สตางค์ต่อหน่วย