ข่าวดี ราคาปุ๋ยลดสูงสุด 49% รับฤดูเพาะปลูก’66 สต็อกล่าสุด 1.42 ล้านตัน

ปุ๋ย ราคาปุ๋ย พฤษภาคม 2566

พาณิชย์ เผยข่าวดี ราคาปุ๋ยในประเทศลดลงต่อเนื่อง สูงสุด 49% ปริมาณเพียงพอ พร้อมรับฤดูการเพาะปลูก ล่าสุด สต็อกปุ๋ย ณ เดือน เม.ย. 2566 มีประมาณ 1.42 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 30%

วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ปุ๋ยเคมี ขณะนี้ได้ปรับลดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแม่ปุ๋ยทั้งไนโตรเจน (N) ฟอสเฟต (P) และโพแทส (K) ราคาปรับลดลงแล้ว 20-49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปุ๋ยที่ปรับลดลง อาทิ ยูเรีย (46-0-0) ราคาลดลงถึง 49% แอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ราคาลดลง 41% ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต (18-46-0) ราคาลดลง 20% และโพแทสเซียมคลอไรด์ (0-0-60) ราคาลดลง 20%

“ต้องยอมรับว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ปุ๋ยมีราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งผลจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่มีต่อปริมาณปุ๋ยในตลาดโลก แต่กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อเนื่อง”

โดยมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ราคาให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งทำให้มีการนำเข้าปุ๋ยมากขึ้น อีกทั้งยังให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและกรมการค้าภายในร่วมกันเชื่องโยงปุ๋ยจากประเทศอื่นเข้ามาทดแทนส่วนที่ขาดหายไปจากผลกระทบของความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

ขณะที่ ผลของการเยือนซาอุดีอาระเบียของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ช่วงปลายเดือน ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ก็ได้พบกับบริษัท ซาบิก ซึ่งเป็นผู้ส่งออกปุ๋ยรายใหญ่ของโลก ทำให้มีการสั่งซื้อมากว่า 425,000 ตัน และมีการสั่งซื้อระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้สต็อกปุ๋ยของทุกโรงงานทั่วประเทศ ณ เดือน เม.ย. 2566 มีประมาณ 1.42 ล้านตัน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 30% เกษตรกรจึงมั่นใจได้ว่าจะมีปุ๋ยใช้อย่างเพียงพอ พร้อมสำหรับฤดูกาลเพาะปลูกที่เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. 66 เป็นต้นไป

ด้วยสถานการณ์ราคาปุ๋ยในตลาดโลกที่ปรับลดลงและด้วยปริมาณที่เพียงพอทำให้ตลาดมีการแข่งขันกันมากขึ้น ราคาจึงปรับลดลงมามากแล้ว

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป รวมทั้งกำชับให้ผู้ประกอบการจำหน่ายในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน เมื่อต้นทุนนำเข้าปุ๋ยลดลงราคาจำหน่ายก็ต้องลดลงด้วย ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุอันสมควร นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกับซื้อปุ๋ยจากโรงงานโดยตรง ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปได้อีก