54 รง.ป่วนลอยตัวน้ำตาล ครบุรีชี้เสี่ยงผิดกม.เพียบ

ลอยตัวน้ำตาล
ยังไม่จบ - หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้ ม.44 ประกาศลอยตัวราคาน้ำตาล ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 61 จนถึงขณะนี้ไม่สามารถหาข้อยุติขั้นตอนการปฏิบัติได้
3 สมาคมโรงงานน้ำตาลป่วนจัดประชุมด่วน หลัง”น้ำตาลครบุรี”ส่งจม.ด่วนถึงกองทุนอ้อย-กระทรวงอุตฯ-พาณิชย์ ชี้ประกาศเข้าข่าย “เสี่ยงไม่ชอบด้วยกฎหมาย” เพียบ

แหล่งข่าวจากวงการอ้อยน้ำตาลเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้เกิดปัญหาความปั่นป่วนอย่างหนักในการลอยตัวราคาน้ำตาล เพราะภาครัฐไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องให้กับโรงงานน้ำตาล และชาวไร่อ้อยได้ โดยเฉพาะประกาศต่าง ๆ ที่ออกมาทางโรงงานน้ำตาลส่วนใหญ่เห็นว่า อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอาจทำให้ผิดข้อตกลงกับบราซิลและองค์การการค้าโลก (WTO) เพราะรัฐบาลยังคงควบคุมราคา และให้การอุดหนุนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ดังนั้น สมาคมโรงงานน้ำตาลไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตน้ำตาลไทย และสมาคมการค้าอุตสาหกรรมน้ำตาลได้นัดประชุม เพื่อหารือเรื่องดังกล่าวในสัปดาห์นี้

หลังรัฐบาลใช้ ม.44 ประกาศลอยตัวราคาน้ำตาลทราย เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 61 ให้ยกเว้นการใช้บังคับมาตรา 17 (18) ของพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 เรื่องหลักเกณฑ์การจำหน่ายและกำหนดราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศ แต่ในวันที่ 23 ม.ค. 61 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 21 เรื่องการกำหนดราคาและหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการจำหน่ายน้ำตาลทราย โดยให้ผู้ประกอบการจำหน่ายน้ำตาลทรายไม่สูงกว่าราคาที่กำหนด โดยราคาขายปลีกน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 22.85 บาท/กก. น้ำตาลทรายขาว 21.35 บาท/กก. และน้ำตาลทรายขาว สีรำที่ 21.35 บาท/กก. และให้บวกภาชนะบรรจุได้ไม่เกิน 0.75 บาท/กก.

และในวันที่ 6 ก.พ. 61 นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการ คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ได้ออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เรื่องราคาส่วนต่างระหว่างราคาเฉลี่ยของน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักรที่ขายได้จริงในหนึ่งเดือนกับราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดลอนดอน หมายเลข 5 บวกพรีเมี่ยมน้ำตาลทรายไทยที่เกิดขึ้นในหนึ่งเดือนประจำเดือน ม.ค. 61 เพื่อจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยฯ สรุปได้ว่า สอน.ได้สำรวจราคาน้ำตาลทรายขาวภายในประเทศเฉลี่ยราคา 17.22 บาท/กก. น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เฉลี่ย 18.33 บาท/กก. ทำให้มีผลต่างน้ำตาลทรายขาวเดือน ม.ค. 61 ที่ราคา 5.19 บาท/กก. และผลต่างน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 5.95 บาท/กก. และให้โรงงานนำส่งเงินส่วนต่างเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ภายในวันที่ 15 ก.พ. 61

ล่าสุด นายทัศน์ วนากรกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.น้ำตาลครบุรี ได้ทำหนังสือถึงกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายและส่งสำเนาถึงกอน., คณะกรรมการบริหาร และรัฐมนตรีว่าการ 3 กระทรวงทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อโต้แย้งและขอให้ทบทวนหนังสือกองทุนอ้อยฯที่ ว.013/2561 ลงวันที่ 8 ก.พ. 2561 เนื่องจากเป็น บมจ. ไม่อาจดำเนินการที่เป็นการเสี่ยงว่าจะขัดต่อกฎหมายหลายประการได้ จึงขออุทธรณ์คำสั่งตามประกาศของ สอน.เรื่องราคาส่วนต่างฯและขอเรียกเงินที่ส่งกองทุนอ้อยฯ 46,073,766 บาทคืน โดยขอคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 และขอให้พิจารณาประกาศ และระเบียบต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

4 ปมร้อนเขย่า สอน.

สำหรับ 4 เรื่องที่เสี่ยงจะขัดต่อกฎหมายตามที่บมจ.น้ำตาลครบุรียื่นจม.มา พอสรุปใจความว่า คือ 1.ช่วงเวลาที่ถูกนำมาใช้คำนวณราคาส่วนต่าง ตามระเบียบข้อ 5 กำหนดว่า ให้ สอน.ดำเนินการสำรวจหาราคาเฉลี่ยของน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักรที่ขายได้จริงในหนึ่งเดือนเป็นประจำทุกเดือน แต่การสำรวจราคาเฉลี่ยเดือน ม.ค. 61 เกิดขึ้นช่วงวันที่ 15-31 ม.ค. 61 หลังประกาศลอยตัวไม่ครบ1 เดือน จึงขัดต่อระเบียบ ย่อมมิอาจเป็นราคาเฉลี่ยที่ใช้เป็นตัวแปรในการคำนวณส่วนต่างที่บริษัทต้องชำระเงินเข้ากองทุนได้ หนังสือของกองทุนอ้อยฯย่อมเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ

2.ราคาเฉลี่ยของน้ำตาลทรายที่ขายได้ในราชอาณาจักรมิใช่ราคาที่ขายได้จริง เนื่องจาก สอน.มิได้เรียกร้องให้บริษัทหรือโรงงานอื่นใดนำส่งเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวกับราคาขายที่แท้จริง ไม่ปรากฏหลักเกณฑ์วิธีการที่ชัดเจน เป็นราคาที่ สอน.สำรวจขึ้นเองจากการสุ่มสำรวจด้วยวิธีการที่ไม่ชัดเจน ไม่เป็นที่ยอมรับของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงมิใช่ราคาที่แต่ละโรงงานขายได้อย่างแท้จริง จึงเป็นราคาเฉลี่ยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หนังสือของ สอน.ที่ประกาศเดือน ม.ค. 61 เรียกให้บริษัทนำส่งราคาส่วนต่างเข้ากองทุนจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

3.ราคาส่วนต่างตามประกาศเดือน ม.ค. 61 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจจะขัดกับมาตรา 50 พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า 2560 ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดกระทำการในลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด…ปรากฏชัดเจนว่า สอน.มิได้สำรวจราคาเฉลี่ยของน้ำตาลทราย แต่เป็นการสุ่มสำรวจ เป็นการเปิดช่องกำหนดราคาขายน้ำตาลอย่างไม่เป็นธรรม อาจจะเป็นความผิดอาญา มาตรา 27 พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้าฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ


4.หลักเกณฑ์ว่าด้วยการเรียกเก็บราคาส่วนต่างตามระเบียบเป็นหลักเกณฑ์ที่ขัดต่อกฎหมาย เพราะมีลักษณะใกล้เคียงกับการเก็บเงินเข้ากองทุน 5 บาท จากน้ำตาลโควตา ก. ในอดีตที่ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งเข้าข่ายการอุดหนุนการส่งออก และขัดต่อพันธกรณีของ WTO ที่บราซิลฟ้องร้องไทยอยู่ หลักเกณฑ์การคำนวณราคาส่วนต่างจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย