ราคาน้ำมันดิบ (31 พ.ค. 66) ปรับลด หลังการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐอาจถูกชะลอ

ราคาน้ำมันดิบ
Photo by Paul Ratje / AFP

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐอาจถูกชะลอจากการคัดค้านของฝ่ายรีพับลิกัน

วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงกว่า 4% หลัง ส.ส.ฝ่ายรีพับลิกันหลายคนประกาศคัดค้านข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เพื่อเพิ่มวงเงินการกู้ยืมของสหรัฐ ทำให้ตลาดกังวลว่ารัฐบาลอาจผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงทางเศรษฐกิจทั่วโลก และมีผลกระทบในทางลบต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาด

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 30 พ.ค. 2566 อยู่ที่ 69.46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -3.21 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 73.54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -3.53 เหรียญสหรัฐ

ตลาดจับตาการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 4 มิ.ย. หลังรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียออกมาเตือนกลุ่มนักลงทุนที่ขายล่วงหน้าไว้ให้ระวัง นับเป็นการส่งสัญญาณว่ากลุ่ม OPEC+ อาจจะมีการพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ความเห็นจากรองนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ โนวัก ระบุว่า กลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะที่คงปริมาณการผลิตไว้เท่าเดิม

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขการส่งออกน้ำมันเบนซินจากอินเดียปรับลดลงกว่า 14.51% ประกอบกับแรงหนุนจากความต้องการใช้ที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคมีแนวโน้มตึงตัวในช่วงฤดูกาลซ่อมบำรุงของโรงกลั่นประจำปี