ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลด ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
วันที่ 7 มิถุนายน 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลด หลังตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐและยุโรป โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการประจำเดือน พ.ค.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันยังคงถูกกดดัน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 6 มิ.ย. 2566 อยู่ที่ 71.74 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.41 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 76.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.42 เหรียญสหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลง สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาที่แพงขึ้น
หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2 มิ.ย. 66 ปรับตัวลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินในอินเดียปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปทานในญี่ปุ่นยังคงตึงตัวจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นของผู้ผลิตในประเทศ
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากภูมิภาคตะวันออกกลางปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับอุปสงค์ในเกาหลีใต้ที่ยังคงจำกัด