พาณิชย์เร่งหาแนวทางการขอยกเว้นเป็นรายสินค้าจากการถูกใช้มาตรการ 232 กับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียม

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภายใต้มาตรา 232 (National Security) กับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากทุกประเทศรวมทั้งไทย ซึ่งในกรณีนี้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตและส่งออกสินค้าดังกล่าวจากไทย

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2561 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ (Department of Commerce : DOC) ได้ประกาศรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นขอให้ได้รับการยกเว้นจากการถูกใช้มาตรการเป็นรายสินค้า ซึ่งกำหนดให้เฉพาะบุคคลหรือองค์กรที่อยู่ในสหรัฐฯ ที่ใช้เหล็กหรืออะลูมิเนียมในกิจกรรมทางธุรกิจ เช่น ก่อสร้าง การผลิต หรือเป็นผู้จัดหาสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมให้กับผู้ใช้เท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการยื่นขอให้ได้รับการยกเว้นจากการถูกใช้มาตรการเป็นรายสินค้า โดยเหตุที่จะขอยกเว้นต้องแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้นำเข้าหรือผู้ใช้ของสหรัฐฯ หลังจากมีการใช้มาตรการดังกล่าว โดยอาจแสดงให้เห็นความสำคัญของสินค้าจากไทยที่สหรัฐฯ จำเป็นต้องนำเข้าและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

นายอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าต่างประเทศ ได้จัดการประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561 เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว และหารือการดำเนินการต่อไป

โดยผู้ผลิตและผู้ส่งออกของไทยจะดำเนินการร่วมกับผู้นำเข้าในสหรัฐฯ ที่เป็นพันธมิตรทางการค้าเพื่อยื่นคำขอยกเว้นฯ โดยขอให้ผู้นำเข้าในสหรัฐฯ เป็นผู้กรอกข้อมูลคำขอ และทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนข้อมูลระหว่างกันเพื่อแสดงให้เห็นว่าสินค้าที่ส่งออกจากไทย เป็นสินค้าที่ไม่มีการผลิตหรือผลิตไม่เพียงพอในสหรัฐฯ ซึ่งยังมีความจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องนำเข้าเพื่อไม่ให้การใช้มาตรการดังกล่าวกระทบต่อผู้นำเข้าหรือผู้ใช้ภายในสหรัฐฯ และขณะนี้ทั้งผู้ผลิตและผู้ส่งออกของไทย และผู้นำเข้าในสหรัฐฯ บางส่วนได้มีหารือกันแล้ว และผู้ประกอบการบางรายก็จะได้ดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป

​อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการดำเนินการของภาคเอกชนในการยื่นขอยกเว้นเป็นรายสินค้าแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดตามในส่วนของการยกเว้นเป็นรายประเทศ ซึ่งหน่วยงานของสหรัฐฯ คือสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative: USTR) เป็นผู้รับผิดชอบ โดยขณะนี้ยังไม่มีการประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการออกมาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม กรมการค้าต่างประเทศและหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อจัดเตรียมข้อมูลในการดำเนินการยื่นขอการยกเว้นจากการถูกใช้มาตรการเป็นรายประเทศ เพื่อให้สหรัฐฯ ถอดรายชื่อประเทศไทยจากการใช้มาตรการดังกล่าวต่อไป รวมทั้งจะหยิบยกปัญหาผลกระทบที่ได้รับจากการใช้มาตรการภายใต้มาตรา 232 (National Security) ขึ้นหารือในเวทีการประชุม Trade and Investment Framework Agreement (TIFA) ในเดือนเมษายน 2561 ด้วย