
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลด จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีนและดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
วันที่ 15 สิงหาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลง หลังตลาดยังคงให้น้ำหนักกับเศรษฐกิจจีนที่ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงในการฟื้นตัว และอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันให้เติบโตน้อยกว่าที่คาด โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ที่ปรับตัวลง 0.3%ในเดือน ก.ค. 66 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรก สะท้อนถึงการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวลง และส่งสัญญาณว่าจีนมีความเสี่ยงด้านภาวะเงินฝืด
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- เปิดค่าตอบแทน “ผู้บริหาร” ยักษ์ บจ. BBL จ่ายพันล้านต่อปี ทิ้งห่างคู่แข่ง
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 14 ส.ค. 2566 อยู่ที่ 82.51 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.68 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 86.21 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.60 เหรียญสหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับผู้นำเข้าที่ถือสกุลเงินอื่น
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่าการปรับลดการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะทำให้สต๊อกน้ำมันลดลงอย่างมากในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งอาจดันราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อได้
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินตึงตัวจากการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงกลั่นในประเทศอินเดีย ท่ามกลางอุปทานจากการส่งออกของจีนที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากอุปสงค์ที่ปรับตัวลดลงจากฝั่งภูมิภาคตะวันตก และการส่งออกน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเกาหลีใต้