
ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. 2566 อยู่ที่ระดับ 90.9 ปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ได้ปัจจัยหนุนการท่องเที่ยว มาตรการดูแลค่าครองชีพ พร้อมแนะรัฐตรึงค่าไฟงวด 1/67 ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย ต่ออายุตรึงดีเซล 30 บาทต่อลิตร และกลุ่มเบนซินต่อเนื่อง
วันที่ 12 ธันวาคม 2566 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนพฤศจิกายน 2566 จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,326 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. ว่าอยู่ระดับ 90.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 88.4 ในเดือนตุลาคม และปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชน ทั้งการปรับราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา มาตรการพักหนี้เกษตรกร ส่งผลให้การบริโภคและการใช้จ่ายในประเทศดีขึ้น ขณะที่ภาคส่งออกมีทิศทางที่ดีขึ้น และมีคำสั่งซื้อที่เพิ่มในเทศกาลช่วงปลายปี
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ 43.7% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 70.5% ตามลำดับ
ปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ เศรษฐกิจโลก 80.2% ราคาน้ำมัน 52.1% เศรษฐกิจในประเทศ 45.5% สถานการณ์การเมืองในประเทศ 40.0% ตามลำดับ
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่น คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 97.3 ปรับเพิ่มขึ้นจากตุลาคม แต่เศรษฐกิจไทยยังคงมีปัจจัยเสี่ยงทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง ต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน เอกชนมีความกังวลต่อการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากผู้ประกอบการต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ยังกดดันการฟื้นตัวของภาคการส่งออก ตลอดจนความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจยืดเยื้อและรุนแรง
เสนอแนะภาครัฐ
ทั้งนี้ ส.อ.ท.มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ
1.ต้องการให้พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดที่ 1 (ม.ค.-เม.ย. 67) สำหรับภาคการผลิต ให้อยู่ระดับเดิมเฉลี่ยที่ 3.99 บาท/หน่วย และเร่งตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ด้านพลังงาน ซึ่งมั่นใจจะได้ข้อสรุปใน 2 เดือน เพื่อให้เป็นธรรมทุกฝ่าย ทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้
2.เสนอให้รัฐขยายเวลามาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล 29.94 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 66 รวมถึงมาตรการลดราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินลง 2.50 บาทต่อลิตรที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 66 เพื่อลดภาระให้แก่ประชาชน ซึ่งดูจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่อ่อนตัวลง ภาครัฐน่าจะสามารถดำเนินการได้
3.ขอให้รัฐเข้มงวดการตรวจจับสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ โดยเฉพาะสินค้าออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค รวมทั้งสกัดกั้นการนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ดัชนีเชื่อมั่นเดือน พ.ย. ผู้ประกอบการทุกระดับปรับตัวเพิ่มขึ้นหมด โดยเฉพาะเพิ่มขึ้นจากการบริโภคภายในประเทศ การส่งออกทิศทางดีขึ้น
สิ่งที่กังวลคือต้นทุนการเงินทางธนาคารพาณิชย์ยังคงสูง หนี้ครัวเรือนยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ขณะเดียวกัน เอลนีโญปี 2567 เป็นเรื่องที่กังวล เพราะจะกระทบต่อปริมาณสินค้าภาคเกษตรจะลดลง และกระทบต่อต้นทุนการผลิตอาหาร