“กฤษฎา” ตั้งเป้าซื้อขายผ่านเว็บ“ดิจิทัลฟาร์มดอทคอม” 1 ล้านบัญชีใน 3 เดือน

“กฤษฎา” ตั้งเป้าซื้อขายผ่านเว็บ “ดิจิทัลฟาร์มดอทคอม” 1 ล้านบัญชี ภายใน 3 เดือน เล็งเพิ่มสินค้าปศุสัตว์-ประมง-ยาง ลั่น! ไม่กลัวล้งจีน-อาลีบาบา สินค้าต้องเคลมคืนได้

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกณ์ เปิดเผยว่า สำหรับนโยบายการเพิ่มช่องทางการค้าขายทางระบบออนไลน์(อีคอมเมิร์ซ) นั้น ขณะนี้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้เปิดเว็บไซต์ขายสินค้าเกษตรอออนไลน์ชื่อ www.dgtfarm.com หรือดิจิทัลฟาร์มดอทคอม โดยนำร่องค้าขายผลไม้และข้าวแล้ว และต่อไปจะพิจารณาสินค้า อาทิ ปศุสัตว์ ประมง ผลิตภัณฑ์ยางพารา เป็นต้น ให้สามารถค้าขายบนเว็บไซต์นี้

อย่างไรก็ตามปัจจุบันได้เปิดให้เกษตรกรลงทะเบียนโดยใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลัก และระบุสินค้าที่จะทำการค้าขาย ก่อนระบบจะมีการจับคู่ (matching) ระหว่าง เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค หรือผู้ซื้อกับผู้ขาย โดยอัตโนมัติเพื่อให้สามารถขายสินค้าโดยตรง โดยตั้งเป้ามีผู้ลงทะเบียนซื้อขายสินค้า 1 ล้านบัญชีภายใน 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค.61 เพื่อซื้อขายสินค้าบนเว็บไซต์ ดิจิทัลฟาร์ม

“ผมไม่เกรงกลัวโรงคัดบรรจุผลไม้ (ล้ง)จีน หรือบริษัทอาลีบาบา แต่อยากจะเน้นว่าทั้งผู้ขายและซื้อ โดยเฉพาะเกษตรกรจะต้องมีความซื่อสัตย์ ถ้าโชว์รูปสินค้าแบบไหนก็ต้องส่งสินค้าตามรูปภาพ คุณภาพสินค้า เนื่องจากที่ผ่านมาคนไทยมักเชื่อเว็บไซต์ต่างชาติมากกว่าเพราะซื้อจากเว็บไซต์มา บางทีก็เสีย คืนไม่ได้ ดังนั้นเราจึงต้องจัดทำมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนสินค้าให้กับลูกค้า ยอมให้เคลมสินค้าได้ถ้าไม่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้การขายสินค้าเกษตรของไทยสู้กับต่างชาติได้”

อย่างไรก็ตามโครงการนี้เป็นโครงการประชารัฐ มีสถาบันเกษตรกร เอกชน และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เข้าร่วมด้วย ส่วนตลาดหลักๆ ที่มีการซื้อขาย ได้แก่ 1.ตลาดเกษตรอินทรีย์ 2.ตลาดสินค้าการเกษตรที่ดี(จีเอพี) และแปลงใหญ่ และ3.ตลาด QR trace หรือ สินค้าท่ามีระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตร