ขนย้ายกากแร่แคดเมียมกลับตาก คืบหน้า 47% ปรับแผนเข้ม เสร็จช้า 10 วัน

พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล

“พิมพ์ภัทรา” นั่งหัวโต๊ะ ประชุมผู้บริหารกระทรวงกำชับ เร่งสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในการขนย้ายกากอุตสาหกรรม อัพเดตการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียม กลับตากคืบหน้า 47% แล้ว เพิ่มความเข้มงวดอาจล่าช้า 10 วัน จากกำหนดเดิม 17 มิ.ย. 67 พร้อมเผยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ออกใบอนุญาต รง.4 ได้เสร็จทันเป้าหมาย ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี

วันที่ 5 มิถุนายน 2567 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม ครั้งที่ 9/2567 โดยมีนายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกภัทร วังสุวรรณ นายบรรจง สุกรีฑา นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม อก.1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

นางสาวพิมพ์ภัทราได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ผ่านการออกใบอนุญาต รง.4 รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากจีดีพีอุตสาหกรรมลดต่ำลงต่อเนื่อง จึงขอมอบหมายให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมหามาตรการเพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการและทำแผนไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมครั้งถัดไป

พร้อมทั้งได้สอบถามถึงการเร่งรัดออกใบอนุญาต รง.4 ให้แล้วเสร็จตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการยืนยันจากอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่า คาดว่าจะแล้วเสร็จอย่างแน่นอนภายในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ โดยได้กำชับว่า จากนี้ไปขอให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม จัดทำแผนพร้อมรายงานอย่างต่อเนื่อง หากพบปัญหาอุปสรรคจะได้เร่งดำเนินการแก้ไขต่อไป

ทางกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ยังได้สรุปการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียม จำนวน 12,948 ตัน กลับไปฝังกลบที่จังหวัดตากว่า ขณะนี้ได้ขนกลับไปแล้ว 47% หรือประมาณ 6,052 ตัน ใช้พื้นที่ในโรงพักคอยไปแล้วประมาณ 50% ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการรองรับ จึงได้มีการขยายพื้นที่ออกไปอีก 1,000 ตารางเมตร โดยได้บดอัดดิน ปูด้วย HOPE และแผ่นดินเหนียวสังเคราะห์ เช่นเดียวกับการดำเนินการก่อนหน้า

ADVERTISMENT

ส่วนปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในปัจจุบันยังสามารถรับมือได้ ด้านความพร้อมของบ่อฝังกลบอยู่ระหว่างการประเมิน ตรวจสอบ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการยอมรับและสร้างความเข้าใจในการนำกากตะกอนแร่แคดเมียมไปฝังกลบ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันการขนย้ายกากแคดเมียม ต้องใช้รถตู้คอนเทนเนอร์ 100% ด้วยข้อจำกัดในปริมาณรถ ซึ่งหากยังไม่สามารถหาจำนวนรถได้เพียงพอต่อการขนส่งอาจต้องใช้ระยะเวลาในการขนย้ายมากกว่ากำหนดการเดิมคือ 17 มิถุนายน ไปอีกประมาณ 10 วัน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ADVERTISMENT

ส่วนเรื่องการของงบฯกลางเพื่อขนย้ายสารเคมีจากโรงงานวิน โพรเสส จังหวัดระยอง และเอกอุทัย ที่อำเภออุทัยและอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางอธิบดีกรมโรงงานฯได้นำเสนอแผนงบประมาณการจัดการของเสียในที่ประชุมเป็นครั้งแรก ซึ่ง รมว.อุตสาหกรรมได้ขอให้จัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนและให้มาร่วมกันหารือเพื่อวางแนวทางต่อไป

“เป็นโอกาสที่ดีที่ให้กรมโรงงานฯได้แสดงผลงานในสถานการณ์วิกฤตนี้ ท่านทำได้ดีแล้ว หลายปัญหาก็ได้รับการคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ท่านต้องสื่อสารและสร้างความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น เมื่อมีปัญหาจะได้ช่วยเหลือกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย เชื่อว่าท่านสามารถจัดการปัญหาวิกฤตเหล่านี้ได้ เนื่องจากเป็นปัญหาเดิม ๆ และครั้งนี้มีการลงดาบให้เห็นว่าถ้าใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ดังนั้นจึงควรออกแบบระบบให้รัดกุม ควบคุมได้ดีขึ้น เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของกรมโรงงานฯ ที่สำคัญเรื่องการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ที่เรามองต่างมุมกันอยู่ เราต้องทำงานโดยยึดประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ” นางสาวพิมพ์ภัทรากล่าว

นางสาวพิมพ์ภัทรากล่าวว่า ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการหารือถึงปัญหาทางด้านแรงงานที่ส่งผลกระทบต่อโรงงานหลายแห่งจนต้องปิดตัวลง ดังนั้นในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องมีการคาดการณ์ตัวเลขโรงงานที่ได้รับผลกระทบด้วย

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้มีการสำรวจ สวัสดิการข้าราชการ อัตราตำแหน่งของอุตสาหกรรมจังหวัด รวมถึงตำแหน่งอื่น ๆ ที่ยังว่างลง และดำเนินการแต่งตั้งให้แล้วเสร็จ เพื่อเป็นเครือข่ายการทำงานของกระทรวงได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้สรุปผลสำเร็จจากการเดินทางเยือนมณฑลหูหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าพบหารือนักลงทุนจีน สาขาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนัก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบอัจฉริยะ กระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม อนุภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง และจีนรายมณฑล