
ดีเดย์ รับฟังความเห็น “AEDP2024” และ “EEP2024” จนถึง 30 มิ.ย. 67 ปรับปรุงแผน เพิ่มเป้าการใช้พลังงานสะอาด-ลดความเข้มข้นการใช้พลังงาน 36% เดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
วันที่ 18 มิถุนายน 2567 นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ.ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2567-2580 (AEDP2024) และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2567-2580 (EEP2024)
โดยร่างแผน AEDP2024 และ EEP2024 เป็นไปตามนโยบายแผนพลังงานชาติ ผ่านการสนับสนุนส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้น และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
นายวัฒนพงษ์กล่าวว่า แผน AEDP2024 ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ตามศักยภาพที่มีอยู่ในประเทศด้วยเทคโนโลยีและราคาที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการพิจารณาถึงความสอดคล้องกับทิศทางพลังงานโลกที่มุ่งใช้พลังงานสะอาด และการบรรลุสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ
โดย AEDP ฉบับนี้ กำหนดเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกร้อยละ 36 ของการใช้พลังงานขั้นสุดท้าย ณ ปี พ.ศ. 2580 โดยมีแนวทางการขับเคลื่อน อาทิ ส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนด้วยมาตรการทางภาษี ส่งเสริมการบริหารจัดการ จัดเก็บ
และรวบรวมเชื้อเพลิงจากพลังงานทดแทนอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมการแปรรูปเชื้อเพลิงทดแทนเพื่อเป็นเชื้อเพลิงหลักหรือเชื้อเพลิงร่วม ส่งเสริมการผลิตและใช้พลังงานรูปแบบใหม่ ได้แก่ เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน ส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว เป็นต้น
ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้ 20,000 ktoe (พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ) เทียบเท่ามูลค่าการลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้ไม่น้อยกว่า 400,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานได้ไม่น้อยกว่า 7,000 อัตรา เกิดมูลค่าการลงทุนไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท สร้างรายได้ทางการเกษตรจากการส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพได้ไม่น้อยกว่า 41,000 ล้านบาท/ปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในภาคพลังงานได้ไม่น้อยกว่า 75 Mt-CO2 (ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) ในปี 2580 เมื่อเทียบกับปี 2565
สำหรับร่างแผน EEP2024 ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมจากแผน EEP2018 โดยปรับเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงานลดความเข้มการใช้พลังงาน Energy Intensity เป็น 36% ในปี 2580 หรือคิดเป็นพลังงานที่คาดว่าจะลดได้ 35,497 ktoe (พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ) คิดเป็นมูลค่า 532,455 ล้านบาท ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 106 Mt-CO2 (ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)
โดยได้กำหนดมาตรการที่สำคัญไว้อย่างรอบด้านและครอบคลุมทุกภาคส่วน ได้แก่ การกำกับดูแลตามกฎหมายโรงงาน/อาคารควบคุม เกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building Energy Code) การส่งเสริมมาตรฐานอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงและฉลากเบอร์ 5 การส่งเสริมบ้านประหยัดพลังงาน การอนุรักษ์พลังงานในภาคเกษตรกรรม Smart Farming และเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในภาคขนส่ง พร้อมทั้งมีมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตไฟฟ้า ระบบโครงข่ายไฟฟ้า และการใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
หลังจากนี้ พพ.จะได้รวบรวมข้อเสนอแนะและข้อมูลอันเป็นประโยชน์ เพื่อจัดทำร่างแผน AEDP2024 และ EEP2024 ที่สมบูรณ์และทุกภาคส่วนให้การยอมรับ และสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ทาง QR Code ลงทะเบียนและช่องทางออนไลน์ของ พพ.ได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567