คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ามีมติใช้อำนาจตามกฎหมายจัดการล้งไทยและต่างชาติ หลังพบพฤติกรรมใช้อำนาจเหนือตลาดและอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าเอาเปรียบชาวสวน ทั้งทำสัญญาไม่เป็นธรรม กดราคา ส่งหนังสือเตือนให้หยุดทำทันที หากไม่หยุดเจอเล่นงานหนัก โทษสูงสุดปรับ 6 ล้าน และปรับอีกวันละ 3 แสนจนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานประชุมคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าว่า ที่ประชุมได้มีมติให้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการที่คัดและบรรจุผลไม้ (ล้ง) บางรายทั้งคนไทยและต่างชาติ เพื่อให้หยุดพฤติกรรมที่ผิดมาตรา 57 (2) ที่กำหนดห้ามไม่ให้ทำธุรกิจที่จะเกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบธุรกิจรายอื่น โดยการใช้อำนาจตลาดหรืออำนาจต่อรองที่เหนือกว่าอย่างไม่เป็นธรรม หลังจากตรวจสอบพบว่าล้งดังกล่าวมีพฤติกรรมที่กระทำผิดกฎหมาย และขอให้ยุติการกระทำดังกล่าวทันที
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“ล้งบางรายว่ามีพฤติกรรมเอาเปรียบชาวสวนผลไม้ โดยใช้อำนาจเหนือตลาด เช่น ทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรม การซื้อผลไม้ในราคาที่ไม่เป็นธรรม มีการกดราคารับซื้อ อะไรทำนองนี้ ซึ่งได้มีการติดตามพฤติกรรมมานานแล้ว จนแน่ใจว่ากระทำจริง จึงได้ใช้อำนาจตามกฎหมายเข้าไปจัดการสั่งให้หยุดพฤติกรรมที่กระทำอยู่ เรียกได้ว่ากฎหมายฉบับใหม่นี้มีอิทธิฤทธิ์แล้ว ดีกว่าฉบับเก่าที่ต้องไปสืบสวน สอบสวนก่อน และใช้เวลานาน แต่กฎหมายใหม่ คณะกรรมการฯ ใช้อำนาจได้ทันที” นายสนธิรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ การสั่งให้หยุดพฤติกรรมที่กระทำอยู่นั้น เป็นอำนาจตามกฎหมายมาตรา 60 ที่กำหนดให้คณะกรรมการฯ หากพบว่าผู้ประกอบธุรกิจกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 50, 51 วรรคสอง, 54, 55 57 และ 58 สามารถสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ประกอบธุรกิจระงับ หยุด หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงการกระทำ และยังได้ขอให้ชี้แจงการกระทำดังกล่าวด้วย โดยหากพบว่าไม่ยอมหยุดการกระทำ สามารถใช้โทษปรับได้สูงสุด 6 ล้านบาท และปรับอีกวันละ 3 แสนบาทจนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน แต่หากไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว ผู้ประกอบการสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้ภายใน 60 วัน
ขณะเดียวกัน ให้ดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมที่กระทำผิดตามมาตรา 57 (2) ต่อไปด้วย หากพบว่ากระทำผิดจริง มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10% ของรายได้ของปีที่กระทำความผิด
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ ไปจัดประชุมชี้แจง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ให้กับล้ง เกษตรกร และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะพฤติกรรมใดเข้าข่ายหรือไม่เข้าข่ายการเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด หรือการกระทำแบบใดผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม และกระทบต่อชาวสวนผลไม้
“ชาวสวนผลไม้ที่ยังพบหรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากล้ง หรือผู้ประกอบการที่เข้ามารับซื้อผลไม้ สามารถร้องเรียนมาได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ซึ่งจะเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ รวมถึงเกษตรกร ผู้ประกอบการในธุรกิจอื่นๆ ที่หากพบเจอหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินพฤติกรรมทางการค้าที่เอาเปรียบ ก็สามารถร้องเรียนเข้ามาได้เช่นกัน”