สมาคมผู้เลี้ยงสุกร ลุยยื่นร้อง 5 ค้าปลีก-ค้าส่ง ขอราคาขายปลีกไม่กระทบเกษตรกร

นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรรวมตัว พาเหรดยื่นข้อเรียกร้อง ห้างค้าปลีก-ค้าส่งจัดระเบียบตั้งราคาขายไม่กระทบเกษตรกร ขอ 1.8 เท่า ของราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม

วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาคมเตรียมเดินสายพบห้างค้าปลีกค้าส่ง 5 แห่ง ดังนี้

เวลา 09.30 น. บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)

เวลา 11.00 น. บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด (สำนักงานใหญ่)

เวลา 13.00 น. บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)

เวลา 15.00 น. บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)

ADVERTISMENT

เวลา 16.00 น. บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

โดยสมาคมจะขอจัดระเบียบกำหนดแนวทางตั้งราคาขายเนื้อหมูตามโครงสร้างต้นทุนฟาร์ม เพื่อไม่ให้กระทบราคาหน้าฟาร์ม โดยขอให้ใช้เป็นบรรทัดฐานในการอยู่ร่วมกันของผู้เลี้ยงสุกรและผู้จำหน่ายเนื้อสุกรซึ่งเป็นต้นน้ำและปลายน้ำของห่วงโซ่อุตสาหกรรมสุกร

“การเลี้ยงสุกรและการจำหน่ายเนื้อสุกร มีความเชื่อมโยงกันตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งราคาจำหน่ายของห้างค้าปลีกในปัจจุบันนั้น มีผลกระทบโดยตรงต่อราคาหน้าฟาร์มของเกษตรกร สมาคมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลเกษตรกรและผู้ประกอบการเลี้ยงสุกร ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการตั้งราคาขายของห้างค้าปลีก เพราะที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้วในช่วงที่มีหมูเถื่อนระบาดอย่างหนักและห้างบางแห่งจัดรายการโปรโมชั่นชิ้นส่วนเนื้อหมูในราคาต่ำมาก เป็นเหตุให้เกษตรกรถูกผู้ค้าหมูนำมาใช้อ้างอิงเพื่อกดราคาหมูหน้าฟาร์ม จนเกษตรกรเดือดร้อนต้องขายหมูขาดทุน” นายสิทธิพันธ์กล่าว

สำหรับรายละเอียดข้อเรียกร้องที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เสนอเป็นแนวทางการหารือ ประกอบด้วย

1.สมาคมจะเสนอให้กรมปศุสัตว์ ออกระเบียบการระบุฟาร์มต้นทาง แหล่งที่มาของเนื้อสุกรที่วางจำหน่ายปลีก ณ จุดจำหน่ายในกลุ่มสินค้าเนื้อสุกร ปศุสัตว์ OK และขยายไปถึงเนื้อสุกรทั่วไป

2.ขอให้ห้างค้าปลีกตั้งราคาจำหน่ายปลีก ส่วนเนื้อแดงไม่ต่ำกว่า 1.8 เท่า ของราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม

3.สมาคมจะส่งข้อมูลการคาดการณ์ต้นทุนการผลิตสุกร ของคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตสุกร ให้ทราบทุกไตรมาส เพื่อใช้เป็นตัวตั้งต้นประกอบเกณฑ์ร่วมของผู้ค้าส่ง ค้าปลีกที่จะนำมาซึ่งจำนวนเท่าของการตั้งราคาจำหน่ายปลีกชิ้นส่วนเนื้อแดง ในไตรมาสนั้น ๆ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบย้อนกลับไปยังราคาจำหน่ายสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ที่จะเป็นเหตุให้เกิดการขายต่ำกว่าต้นทุนการผลิต

4.กรณีที่มีการตรวจพบว่าห้างค้าส่งค้าปลีกใดที่มีการตั้งราคา ตามจำนวนเท่าที่นำไปคูณ ต่ำกว่าที่ตกลง สมาคมจะมีหนังสือเตือน หากไม่มีการแก้ไขในการกำหนดราคาจำหน่ายปลีกให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ตกลงกัน สมาคมจะยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป

สำหรับการเสนอแนวทางกับห้างค้าส่งค้าปลีกดังกล่าวข้างต้น สมาคมจะรายงานให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับทราบ