
อธิบดีกรมชลฯ นำทีมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ จ.มหาสารคาม พร้อมเร่งระบายน้ำอ่างแก่งเลิงจาน และอ่างเก็บน้ำห้วยคะคาง หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน นายไพฑูรย์ ศรีมุก ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เนื่องจากในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา มีฝนตกหนักและยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดยในจุดแรก อธิบดีกรมชลประทาน และคณะ ได้ไปติดตามการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ที่มีการรับน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยคะคาง (อ่างโคกก่อ) ปัจจุบันอ่างแก่งเลิงจานมีปริมาณน้ำเต็มความจุอ่าง เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่ตลอดทั้งคืนและได้มีการระบายน้ำออกทางระบายน้ำล้น (Spillway) ลงสู่ลำคลองสาขา ก่อนจะระบายน้ำลงสู่ลำน้ำชีตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบปัญหาน้ำล้นตลิ่ง
พร้อมทั้งได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมวางแนวทางในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำโดยเร็วต่อไป
จากนั้นได้ไปติดตามงานปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้นอ่างเก็บน้ำห้วยผึ้ง อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของอ่าง คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนภายในปี 2567 ส่วนอ่างห้วยผึ้ง ปัจจุบันยังสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาได้อีก
ขณะเดียวกันวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 โครงการชลประทานมหาสารคาม เร่งระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน และอ่างเก็บน้ำห้วยคะคาง (โคกก่อ) อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม หลังมีฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์ของความจุของอ่าง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างได้
สำหรับแนวทางการระบายน้ำ ปัจจุบันได้เร่งระบายน้ำจากอ่างแก่งเลิงจานลงสู่คลองผันน้ำแก่งเลิงจานผ่านประตูระบายน้ำท่าสองคอน พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ (Hydro flow) ขนาด 42 นิ้ว อีก 2 เครื่อง เพื่อเร่งระบายลงสู่แม่น้ำชี รวมทั้งเร่งกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำที่ไหลมากับกระแสน้ำบริเวณอาคารระบายน้ำฉุกเฉิน (Emergency spillway) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนอ่างห้วยคะคาง ได้เดินเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำท่าตูม 4 เครื่อง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้วอีก 4 เครื่อง เพื่อช่วยระบายน้ำที่อยู่ในเขตเมืองมหาสารคาม
ทั้งนี้ โครงการชลประทานมหาสารคาม ได้ทำหนังสือประกาศแจ้งเตือนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ติดลำห้วยคะคางและพื้นที่ท้ายอ่าง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์น้ำในอำเภอเมืองมหาสารคามยังไม่อยู่ในภาวะวิกฤต ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ากรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรเครื่องมือไว้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ