หั่นเป้าผลิตรถยนต์ปี 2567 เหลือ 1.7 ล้านคัน คนไทยหนี้ท่วม

รถยนต์
รถยนต์

ส.อ.ท. ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ปี 2567 จาก 1,900,000 คัน เหลือ 1,700,000 คัน เผยคนไทยหนี้พุ่ง กำลังซื้อหด ดัชนีภาคการผลิตร่วงทุกเดือน หวังปัจจัยบวกครึ่งปีหลังทั้งงบฯเบิกจ่ายจากรัฐ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่เดือนมิถุนายนทั้งยอดผลิตขายลดลงทั้งหมด

วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.ได้ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ปี 2567 จาก 1,900,000 คัน เป็น 1,700,000 คัน โดยปรับเป้าเฉพาะผลิตขายในประเทศลดลงจาก 750,000 คัน เป็น 550,000 คัน จากปัจจัยลบของหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90% ของ GDP ประเทศ

ในขณะที่รายได้ครัวเรือนยังต่ำจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ การลงทุนจากต่างประเทศรวมทั้งดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังลดลงมาหลายเดือน คนงานมีรายได้ลดลง ประชาชนระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

หน่วยงานเศรษฐกิจหลายแห่งลดการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยลง สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์โดยเฉพาะรถกระบะ จำนวนแรงงานวัยทำงานน้อยกว่าเพื่อนบ้านจากอัตราการเกิดต่ำ จะทำให้นักลงทุนลังเลในการลงทุนเพราะเป็นสังคมสูงอายุ

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สำหรับตัวเลขยอดการผลิตรถยนต์ในเดือนมิถุนายน 2567 พบว่ามีทั้งหมด 116,289 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2566 ถึง 20.11% และลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ 7.82% จากการผลิตขายในประเทศที่ลดลงกว่า 43.08% ตามยอดขายในประเทศที่ลดลง 26% และผลิตส่งออกลดลง 3.70%

ADVERTISMENT

ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2567) มีจำนวนทั้งสิ้น 761,240 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.39%

โดยผลิตเพื่อส่งออกในเดือนมิถุนายน 2567 ผลิตได้ 81,767 คัน เท่ากับ 70.31% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.70% ดังนั้นครึ่งปีแรกผลิตเพื่อส่งออกได้ 516,183 คัน เท่ากับ 67.81% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.73%

ADVERTISMENT

และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนมิถุนายน 2567 อยู่ที่ 34,522 คัน เท่ากับ 29.69% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 43.08% ดังนั้นครึ่งปีแรกจึงผลิตได้ 245,047 คัน เท่ากับ 32.19% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37.30%

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิถุนายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 47,662 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ 4.43% แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 26.04% เพราะรถกระบะที่ขายลดลงถึง 36.44% และรถ PPV ลดลง 49.98% จากหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราต่ำ สถาบันการเงินจึงระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อ โดยเฉพาะรถกระบะและรถบรรทุก

ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) เดือนมิถุนายน 2567 พบว่ามียอดจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,990 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว 17.46%

อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของครึ่งปีหลังปี 2567 จะดีขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และ 2568 ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นของรัฐบาล