
“ทาทา สตีล” ประเมินเหล็กนำเข้าจากจีนยังส่อแววพุ่งไม่หยุดตลอดปี ยอมปรับทุกกลยุทธ์ทั้งผลิตเกรดสูง ส่งออกตลาดใหม่ ลดเวลาส่งมอบให้ลูกค้า วอนรัฐต้องเร่งมาตรการอุ้มให้มากกว่านี้ เผยรายได้ไตรมาส 1/67 ทะลุ 3 แสนตัน กำไร 200 ล้านบาท ครึ่งปีหลังมองอุตสาหกรรมเหล็กยังดีเหตุโครงการรัฐกำลังมา
วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นายตารุน ดากา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ของอุตสาหกรรมเหล็กของไทยว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาทั้งอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการถูกเหล็กจีนนำเข้ามาและแข่งขันด้านราคาตลอด โดยพบว่าปี 2567 เป็นปีที่จีนส่งออกเหล็กออกนอกประเทศสูงสุดในรอบ 8 ปี เพิ่มขึ้น 20.3% หรือกว่า 45.5 ล้านตัน ขณะเดียวกันจีนยังคงบริโภคเหล็กสูงถึง 50% ของโลก
และจีนยังคงส่งออกเหล็กสำเร็จรูปมาประเทศไทยในช่วง 5 เดือน เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นในส่วนที่เป็นเหล็กลวดและลวด ในปี 2567 สูงขึ้น 10% ในขณะที่การใช้กำลังการผลิตเหล็กของไทยมีเพียง 28% เท่านั้น
“เราต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการผลิตสินค้าเกรดสูง ส่งออกไปประเทศที่เป็นตลาดใหม่ ๆ อย่างออสเตรเลีย ดูไบ ฮ่องกง รวมถึงส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าเร็วขึ้น เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงกับค่าเงิน ไม่ต้องรอเวลานาน เป็นการเน้นบริการที่ดึงลูกค้าไว้ เมื่อเขาสั่งของในประเทศไม่นานเขาก็ไม่นำเข้า แต่เราก็เชื่อว่าเหล็กจีนยังมีโอกาสทะลักเข้ามาไทยเพิ่มอีก เราก็ต้องหากลยุทธ์ใหม่ ๆ ตลอด”
สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งไทยได้ปรับคาดการณ์ GDP เป็น 2.5% ขณะที่ไตรมาส 1/2567 โตอยู่ที่ 1.5% เช่นเดียวกับเศรษฐกิจจีนที่ตัวเลขลดลงเช่นกันผลจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง ส่วนค่าเงินบาทยังคงผันผวน อย่างไรก็ตามเมื่อรัฐบาลไทยพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นท่องเที่ยว ในเรื่องของฟรีวีซ่า การเบิกจ่ายงบฯ อาจมีการใช้เหล็กเพิ่ม โดยเฉพาะเหล็กทรงยาว ด้วยโครงการรัฐอีกจำนวนมากกำลังเริ่มลงทุน รวมถึงมาตรการต่าง ๆ หวังว่า GDP จะดีกว่าที่คาดการณ์
สำหรับไตรมาสที่ 1 ของปีการเงิน 2568 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทได้รายงานผลกำไรก่อนหักภาษีเงินได้ 93 ล้านบาท ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2567 เทียบกับกำไร 200 ล้านบาท ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 และกำไร 48 ล้านบาท ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2566 โดยกำไรสำหรับไตรมาสเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 รวมกำไร 220 ล้านบาท จากการขายทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้งานโครงการเตาถลุง Mini Blast Furnace (MBF)
ทั้งนี้ ปริมาณการขายในไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 309,000 ตัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากยอดขายเหล็กลวดในประเทศและการส่งออกที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณการขายในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2567 ยังคงต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าคือในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567