ครึ่งปีแรก 2567 ไทยส่งออกโคมีชีวิต กว่า 5 หมื่นตัว เกษตร เคาะ 4 แนวทางดูแลตลาด

ครึ่งปีแรก 2567 ไทยส่งออกโคมีชีวิตกว่า 5 หมื่นตัว อนุกรรมการด้านการรักษาตลาดการบริโภค เนื้อโค-กระบือ เคาะ 4 แนวทางดูแลตลาด

วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการรักษาตลาดการบริโภค เนื้อโค-กระบือ และผลิตภัณฑ์ ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 67 โดยมีนายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน เข้าร่วม

ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบประเด็นสำคัญต่าง ๆ คือ

1) ข้อเสนอการกำหนดโครงสร้างต้นทุนของห่วงโซ่อุปทานโคเนื้อในส่วนที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ตั้งแต่ฟาร์ม โรงฆ่า และสถานที่จำหน่าย (เขียง) เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการแก้ไขปัญหาราคาโคเนื้อให้ดีขึ้นอย่างรอบด้าน โดยได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อมูลประกอบเพิ่มเติมก่อนนำเสนอเข้าคณะกรรมการนโยบายพัฒนาโคเนื้อ-กระบือ และผลิตภัณฑ์แห่งชาติ (Beef Board) ต่อไป

2) มาตรการส่งเสริมการตลาดและการแก้ปัญหาราคาโคเนื้อตกต่ำ ได้แก่ มาตรการควบคุมสารเร่งเนื้อแดงตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยพิจารณาจากฟาร์ม/สถานที่เลี้ยง/เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ โค-กระบือส่งออก มาตรการป้องกันและการลักลอบนำเข้าโคเนื้อ กระบือ เนื้อโค เนื้อกระบือ

โดยมีมาตรควบคุมของกรมปศุสัตว์ตามแนวชายแดน มาตรการผลักดันการใช้เครื่องหมายประจำสัตว์ประเภทเบอร์หู (NID) เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการสินค้าโคเนื้อ กระบือทั้งระบบ และมาตรการส่งเสริมการตลาด เพื่อเพิ่มปริมาณการบริโภคและสร้างความสามารถในการแข่งขันเนื้อโคไทยในทุกตลาด พร้อมส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน

ADVERTISMENT

3) แผนการสร้างความมั่นคงด้านอาหารโคเนื้อ ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้วัตถุดิบในประเทศให้มากยิ่งขึ้น
และ 4) การทบทวนขั้นตอนการนำเข้าโค กระบือ จากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และการเคลื่อนย้ายเพื่อการส่งออก โดยได้มีการพิจารณาในเรื่องการนำเข้าสัตว์บริเวณชายแดน มาตรฐานสถานการณ์กักกันสัตว์ เครื่องหมายประจำตัวสัตว์ และการติดตามการนำเข้าโค กระบือ เข้าคอกกักนำเข้า มาตรการควบคุมเร่งเนื้อแดง และการกำหนดปริมาณการนำเข้าส่งออกและแผนการนำเข้าส่งออกโค กระบือ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบสถานการณ์การผลิตและการตลาดโคเนื้อของประเทศ พบว่า ในเดือนเมษายน 2567 (ข้อมูลจากกองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์) มีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ จำนวน 1.440 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 1.13 มีโคเนื้อ จำนวน 9.912 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 1.26 และมีความต้องการโคเนื้อในประเทศถึง 242.23 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 2.57

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ ในปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) ประเทศไทยมีการส่งออกโคมีชีวิต จำนวน 50,000 กว่าตัว มูลค่า 1,299 ล้านบาท โดยส่งออกไปประเทศมาเลเซีย ร้อยละ 39.25 เวียดนาม ร้อยละ 33.47 ลาว ร้อยละ 26.63 และประเทศอื่น ๆ ร้อยละ 0.65 และมีการส่งออกเนื้อโคและผลิตภัณฑ์ จำนวน 3,100 ตัน

มูลค่า 48 ล้านบาท แบ่งเป็นเนื้อโคแปรรูป ร้อยละ 99 ส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น และเนื้อโคสดแช่เย็น ร้อยละ 1 ส่งออกไปยังประเทศลาว เมียนมา และกัมพูชา ตามลำดับ

สำหรับความก้าวหน้าการเจรจาการจำหน่ายโคเนื้อไปยังต่างประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สหพันธรัฐมาเลเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย มีความคืบหน้า ดังนี้ 1) เวียดนามมีหนังสืออนุญาตให้นำเข้าโค-กระบือมีชีวิตจากไทยเพิ่มเติม จำนวน 4 ฟาร์ม จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2567 และรออนุมัติจากกรมสุขภาพสัตว์เวียดนาม จำนวน 3 ฟาร์ม ซึ่งยื่นเพิ่มเติมไปเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 67 2) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดยกรมปศุสัตว์ยื่นหนังสือรายชื่อฟาร์มโค-กระบือมีชีวิตที่ได้รับการรับรองเพิ่มเติมต่อกรมสัตวแพทย์บริการแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย โดยปัจจุบันประเทศไทยมีฟาร์มและสถานกักกันสัตว์ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปมาเลเซีย จำนวน 40 แห่ง 3) เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 67 กรมปศุสัตว์จัดส่งข้อมูลการประเมินความเสี่ยงระบบการป้องกันและควบคุมโรคในโคของประเทศไทย ให้สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนพิจารณา และติดตามการตอบกลับอย่างต่อเนื่อง

และ 4) เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 67 กรมปศุสัตว์ได้จัดประชุมชี้แจงขั้นตอนการส่งออกและเตรียมความพร้อมส่งออกโคมีชีวิตไปยังซาอุดีอาระเบียร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งประเทศไทยได้รับการอนุญาตให้ส่งออกโคมีชีวิตไปยังซาอุดีอาระเบีย เพื่อนำไปเชือดและทำพันธุ์ได้ตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย. 67 เป็นต้นไป