วันแม่ 12 ส.ค. 2567 คาดเงินสะพัด 10,855 ล้านบาท

นางอุมากมล สุนทรสุรัติ

หอการค้าไทย เผยผลสำรวจวันแม่ คนส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญ คาดว่าจะมีเงินสะพัด 10,855 ล้านบาท 

วันที่ 6 สิงหาคม 2567 นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยผลสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันแม่ ระหว่างวันที่ 1-4 สิงหาคม 2567 จำนวน 1,285 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า คนส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญในวันแม่ โดยการใช้จ่ายในปีนี้ ที่ให้ในวันแม่ 66.5% ไม่เปลี่ยนแปลง และ 22.7% เพิ่มขึ้น ส่วน 10.8% ลดลง

ขณะที่พฤติกรรมการเลือกซื้อของขวัญและการไปทำกิจกรรมในช่วงวันแม่ ในปีนี้ 34.9 ไม่ซื้อเลย และ 32.5 ซื้อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อคือ ความน่าเชื่อถือและคุณภาพของสินค้า โดยระดับราคามีผลต่อการวางแผนการใช้จ่าย ซึ่ง 38.1% ส่งผลมาก 36.3% ส่งผลปานกลาง 15.4% ส่งผลน้อย 10.2% ไม่ส่งผลเลย

นอกจากนี้ กิจกรรมในช่วงวันแม่ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาว 3 วัน ส่วนใหญ่จะพาแม่ไปทานข้าว ไปทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกบ้านพาไปทำบุญ และพาไปเที่ยวต่างจังหวัด และพบว่างบประมาณในการใช้จ่ายช่วงวันแม่เมื่อเทียบปี 2566 ปีนี้เพิ่มขึ้น 42% เป็นผลมาจากราคาสินค้าและบริการแพงขึ้น เนื่องจากเป็นวันพิเศษและมองว่าเศรษฐกิจกำลังจะดีขึ้น และ 33.7% ไม่เปลี่ยนแปลงส่วน 24.3% ลดลง เนื่องจากค่าครองชีพสูงราคาสินค้าและบริการแพงต้องการประหยัดเศรษฐกิจไม่ดีเป็นหนี้มากขึ้นเป็นต้นส่งผลให้คาดว่าในช่วงวันแม่จะมีเงินสะพัดประมาณ 10,855 ล้านบาท ขยายตัว 2.1% เมื่อเทียบปีที่แล้ว