เอกชนห่วงเสถียรภาพการเมือง ฉุดดัชนีเชื่อมั่นหอการค้า ส.ค. 67 ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน

ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้า

หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้า เดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 50.5 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ต่ำสูงในรอบ 11 เดือน ซึ่งมีการปรับตัวทุกรายการ เกิดจากความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมือง อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงที่ 2.5% ต่อปี ค่าเงินบาทแข็งค่า ย้ำให้ภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ รักษาเสถียรภาพการเงิน

วันที่ 12 กันยายน 2567 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้า เดือนสิงหาคม 2567 ที่ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 50.5 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดในรอบ 11 เดือน และยังมีการปรับตัวทุกรายการ โดยเป็นผลมาจากภาคเอกชนยังให้ความกังวลนโยบายของภาครัฐและสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนที่กระทบต่อเศรษฐกิจ

โดยจะเห็นได้ว่าจากปัญหาสภาพอากาศที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง มีผลต่อเศรษฐกิจสร้างความเสียหายกับสินค้าเกษตรและการท่องเที่ยวภายในจังหวัด นอกจากนี้ เอกชนยังมองว่ายอดขายยังไม่มีการฟื้นตัวเต็มที่ เนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนของภาคประชาชนสูง จึงต้องการให้ภาครัฐกระตุ้นกำลังซื้อด้วย

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นของการค้าไทยประจำเดือนสิงหาคม 2567 ขณะที่ช่วงสำรวจอยู่ระหว่างวันที่ 26-30 สิงหาคม 2567 โดยมีจำนวนตัวอย่าง 369 ตัวอย่าง พบว่าความเชื่อมั่นของภาคเอกชนอยู่ที่ระดับ 50.5 และยังปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง

โดยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าที่ปรับตัวลดลง มีปัจจัยผลกระทบมาจากการพ้นตำแหน่งของนายเศรษฐา ทวีสิน จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การยุบพรรคก้าวไกล การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.50% ต่อปี ความกังวลเสถียรภาพทางการเมืองไทยที่ยังไม่แน่นอนสภาพอากาศที่มีการแปรปรวน ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ที่ยังคงอยู่ ความกังวลจากความตึงเครียดของตะวันออกกลาง ความกังวลจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐที่ยังไม่แน่นอน และค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น

ส่วนปัจจัยบวก ที่มีผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นของการค้าไทย คือ การเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีการคาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้น มาตรการกระตุ้นภาษีเพื่อการกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด นักท่องเที่ยวเข้ามาในท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมาก ราคาพืชผลทางการเกษตรในการปรับตัวดีขึ้น การส่งออกของไทยขยายตัว รวมไปถึงราคาน้ำมันขายปลีกลดลง

ADVERTISMENT

ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจของจังหวัด ในเดือนสิงหาคม 2567 โดยเศรษฐกิจจังหวัดโดยรวมปัจจุบัน 36.1 ไม่เปลี่ยนแปลง 32.3 แย่ลง 31.6 ดีขึ้น ส่วนการคาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า 46.7 ดีขึ้น 34.4 แย่ลง และ 18.9 ไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหา ภาคเอกชนมองว่าข้อเสนอแนะต่อภาครัฐที่ต้องการให้แก้ไข

ADVERTISMENT

1.การบริหารจัดการน้ำเน้นการวางแผนระยะยาวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำซาก

2.เร่งดำเนินนโยบายต่าง ๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวในไทยในช่วงปลายปี 2557 นี้

3.ส่งเสริมสินค้าของไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลกได้ และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนขยายฐานการผลิตในประเทศไทย

4..การควบคุมต้นทุนราคาที่เป็นปัจจัยการผลิตเพื่อไม่ให้สมผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ

5.มาตรการควบคุมตลาดขายสินค้าออนไลน์และปริมาณสินค้าจีนที่เข้ามามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

6.การรักษาเสถียรภาพ ของค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน