
“เอกนัฏ” ประกาศ “ผมจะต่อสู้กับปัญหาขยะพิษ” เร่งแก้กฎหมายเพิ่มโทษ เอาจริงโรงงานกำจัดกากทำสารเคมีรั่วสู่ชุมชน จับมือผู้ประกอบการกว่า 58 ราย สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ไว้ระงับเหตุและบรรเทาปัญหาสารเคมีรั่วไหล
วันที่ 18 กันยายน 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมและการจัดการกากพิษที่ไม่ถูกต้อง นำไปสู่การรั่วไหลแพร่กระจายของสารมลพิษปนเปื้อนในหลายพื้นที่ ก่อให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน ดังนั้นจึงสั่งการให้เร่งปฏิรูปอุตสาหกรรม ด้านการจัดการกาก สารพิษ
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษ เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวในการกระทำผิด ให้ผู้ลักลอบทิ้งเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงาน อย่าได้เกรงกลัวต่ออิทธิพล หรือผู้มีอำนาจใด ๆ พร้อมกันนี้ได้ชื่นชมภาคอุตสาหกรรมที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการแก้ไขปัญหาสารเคมีรั่วไหลและสถานการณ์ฉุกเฉิน ลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
“ผมจะต่อสู้กับปัญหาขยะพิษที่ทำร้ายชีวิตประชาชน ไม่อ่อนข้อให้ผลประโยชน์ ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพล เดินหน้า เร่งคืนนํ้าที่สะอาด และอากาศที่บริสุทธิ์ให้คนไทย”
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยวันนี้ (18 กันยายน 2567) กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้จัดกิจกรรม “อุตสาหกรรมรวมใจ บรรเทาปัญหาสารเคมีรั่วไหล” เพื่อขอบคุณและมอบใบประกาศเกียรติคุณให้ผู้ประกอบการกว่า 58 ราย ที่มีความปรารถนาดีในการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการระงับเหตุและบรรเทาปัญหาสารเคมีรั่วไหล
อาทิ หน้ากากป้องกันสารเคมีและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล หินและทรายเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสารเคมี หินปูนและสารเคมีเพื่อระงับการเกิดปฏิกิริยา ภาชนะกอบกู้ของเสียและสารพิษ การเบี่ยงทางน้ำหลากไม่ให้เกิดการปนเปื้อนสารเคมี การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ แรงงาน และเครื่องจักรต่าง ๆ รวมถึงการตรวจเวรยามเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดการจัดการกากพิษที่อาจแพร่กระจายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน พร้อมเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎหมาย เพื่อติดอาวุธให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ สามารถกำกับดูแลผู้ประกอบการและประชาชนต่อไป
“ขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีความปรารถนาดี มีน้ำใจ ผนึกกำลังผ่านโครงการอุตสาหกรรมรวมใจ โดยให้การสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ กำลังคน เครื่องจักร หรือการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ เพื่อร่วมด้วยช่วยกันเป็นหนึ่งกำลังในการย้ำว่าภาคอุตสาหกรรมสามารถอยู่คู่กับประชาชนและสังคมได้อย่างยั่งยืน”