
พาณิชย์ ลงสำรวจกิจกรรม “พาณิชย์จัดให้ ลดราคา เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด” ชี้ประชาชนออกมาซื้อสินค้าคึกคัก หลังได้รับเงิน 10,000 บาท คาดจะทำให้เงินสะพัดกว่า 2 พันล้านบาท พร้อมกำชับ สินค้า “ห้ามขาด ห้ามแพง”
วันที่ 2 ตุลาคม 2567 นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังจากตรวจเยี่ยม กิจกรรม “พาณิชย์จัดให้ ลดราคา เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด” ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3-11 ตุลาคม 2567 ซึ่งกรมการค้าภายในร่วมกับเครือข่าย ผู้ประกอบการ นำสินค้ามาจำหน่ายให้กับประชาชน เพื่อช่วยลดรายจ่ายให้กับประชาชนที่ กำลังเข้าสู่เทศกาลกินเจ ประจำปี 2567 ตรงกับวันที่ 3-11 ตุลาคม 2567 นี้ ณ ตลาดรังสิต ว่า ผู้บริโภคเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก ยังพบสินค้าหลายรายการปรับลดราคาลง
ทั้งนี้ กรมได้รับความร่วมมือกับผู้ประกอบการเจ้าของตลาดในการนำสินค้ามาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในช่วงเทศกาลกินเจ อีกทั้งสินค้าส่วนใหญ่ทรงตัว อาทิ เห็ดหอมธรรมชาติ ฟองเต้าหู้ ดอกไม้จีน โปรตีนเกษตร และซอสปรุงรสประเภทถั่วเหลืองต่าง ๆ ไม่มีการปรับราคาเพิ่มแต่อย่างใด และยังพบวัตถุดิบและเครื่องปรุงประกอบอาหารเจ ราคาลดลง ในส่วนของอาหารสดปรุงสำเร็จที่เป็นเมนูเจ ในตลาดรังสิต ราคาเริ่มต้นที่ 30-40 บาท
ในส่วนของผักสด มีการขายปลีก คะน้า ผักบุ้ง กวางตุ้ง ผักกาดขาว มะเขือเทศ และมะนาว ราคาลดลงจากปีก่อน ในส่วนของแตงกวา ฟักเขียว หน่อไม้และข้าวโพด ราคาทรงตัวเท่ากับปีก่อน โดยในตลาดยังมีการจัดแบ่งขายในราคาประหยัด อาทิ ผักบุ้งจีน คะน้า ต้นหอม ชุดเครื่องต้มยำ กำละ 10 บาท เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมยังมีการตั้งจุดตรวจตราชั่งมาตรฐาน ภายในตลาดรังสิต เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความมั่นใจว่าซื้อราคาที่ถูกต้อง แม่นยำ ได้น้ำหนักที่ครบถ้วน จึงขอเชิญชวนผู้บริโภคประชาชนทุกท่านมาร่วมจับจ่ายใช้สอยในตลาดรังสิต และนอกจากนี้จะได้มีการลงพื้นที่สำรวจในตลาดอื่น ๆ อีกใน กทม. และปริมณฑล ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจและออกมาจับจ่ายใช้สอย และหากพบเห็นความผิดปกติในด้านราคาและปริมาณสินค้า สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน ได้ทันที
อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรม “พาณิชย์จัดให้ ลดราคา เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด” คาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ 2,250 ล้านบาท และช่วยลดค่าของชีพให้กับประชาชนได้กว่า 750 ล้านบาท
นายวิทยากรกล่าวอีกว่า ในส่วนประชาชนที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะมีส่วนช่วยกระตุ้นในการจับจ่ายใช้สอยเป็นอย่างดี ซึ่งพบว่าประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก และจะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์เอง มีหน้าที่กำกับดูแลราคาไม่ให้เกิดความผิดปกติ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่าง ๆ พร้อมได้สั่งการให้กรมการค้าภายในมีการติดตามอย่างใกล้ชิดและได้พูดคุยกับสมาคมที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์ไม่ให้สินค้าขาดแคลนอีกด้วย