
‘เดลต้า อีเลคโทรนิคส์’ เปิดแผน 5 ปี ทุ่มกว่า 16,000 ล้านบาท ลุยทั้ง AI EV ขอรัฐบาลชัดเจนนโยบายสนับสนุนพลังงานสะอาด หลังภาคอุตสาหกรรมการผลิต ต่างชาติปักหมุดลงทุน Data Center ที่ไทย เชื่อปี 2568 ความต้องการ RE 100 พุ่งเหตุการค้าโลกบีบ
วันที่ 18 ตุลาคม 2567 นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนการลงทุน 5 ปี ว่าเดลต้าเตรียมเงินลงทุนไว้ที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16,500 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตและด้าน R&D โดยเฉพาะการลงทุนด้าน AI ที่จะเป็นตัวเข้ามาพัฒนาอุตสาหกรรมในการเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ศักยภาพของ AI ในการเปลี่ยนแปลงระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ การเพิ่มประสิทธิภาพ Data Center ระบบอาคารอัตโนมัติ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะมีสูงถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2573
ส่วนแนวโน้มของตลาด EV ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้จะแผ่วลงตั้งแต่ปลายปี 2566 แต่ยังคงเป็นเมกะเทรนด์ ตลาด EV จึงไม่มีวันหวนกลับมาแต่จะถูกพัฒนาไปข้างหน้า เพียงแต่จะใช้เวลานานในช่วงของการเปลี่ยนผ่านช่วงเริ่มต้นนี้ ดังนั้นเดลต้าจึงไม่ทิ้งตลาด EV
สำหรับ Data Center ยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Google ได้ประกาศแผนการลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศไทยนั้น มีเงื่อนไขในเรื่องของการใช้พลังงานสะอาดที่เป็น Green Ennergy ซึ่งเดลต้าเองมีพลังงานจากแก๊ส ถ่านหินรองรับ เพียงแต่หากว่าประเทศไทยจะดึงการลงทุนให้เข้ามามากกว่านี้
อยากให้รัฐบาลไทยมีความชัดเจนในเรื่องของนโยบายการสนับสนุนพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ Data Center หรือภาคการผลิตของอุตสาหกรรมเอง เพราะต่างต้องการพลังงานสะอาด ด้วยคือพลังงานที่ยั่งยืน เชื่อว่าในปี 2568 ความต้องการพลังงานสะอาดจากภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน
“เดิมกำลังไฟขนาด 10 เมกะวัตต์จะใช่ต่อ 1 Data Center ต่อมาก็เพิ่มเป็น 30-50 เมกะวัตต์ ล่าสุดพบว่าต้องใช้กำลังไฟเพิ่มเป็น 100-300 เมกะวัตต์ และขณะนี้มีการพูดถึงกำลังไฟที่มีขนาดสูงถึงหน่วยกิกะวัตต์ ซึ่งเป็นกำลังไฟที่ใช้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังนั้นในเรื่องนี้รัฐบาลต้องซัพพอร์ต เพราะที่เรามีอยู่มันอาจไม่พอ”
ล่าสุด เดลต้าจัดงานประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ Delta Future Industry Summit 2024 ภายใต้ธีม “ปลดล็อกศักยภาพ AI รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมและดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ซึ่งมีความเห็นจากบริษัทชั้นนำด้านดิจิทัล และเทคโนโลยี อย่าง Facebook Thailand, Firmus Technologies และ Sustainable Metal Cloud (SMC), บริษัท ทรู ไอดีซี จำกัด, Grab, CapitaLand, SCG และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ต้องสร้างความไว้วางใจ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบในการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยี
ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการผสานรวม AI เข้ากับสภาพแวดล้อมการผลิตและอาคารต่าง ๆ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการประยุกต์ใช้ AI ให้สอดคล้องกับระบบที่มีอยู่เดิม การจัดการต้นทุนที่สูง และการบูรณาการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงศักยภาพของ AI ในการเสริมสร้างความยั่งยืนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารและโรงงาน พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรและลดปริมาณของเสีย การปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้ โดยเน้นย้ำความสำคัญของการรักษาสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ในประเด็นนี้ ผู้ร่วมอภิปรายได้ย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในยุคของ AI