
BCPG ระบุ Q3/67 ปริมาณการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 318.7 GWh เพิ่มขึ้นจาก Q3/66 รับอานิสงส์การผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ สปป.ลาว ด้านปริมาณการผลิตไฟฟ้าไทยพุ่งเหตุเพิ่ม solar plant 3 โครงการ รวม 8 เมกะวัตต์ หนุนชดเชยโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทย-โซลาร์ญี่ปุ่นลด
วันที่ 23 ตุลาคม 2567 นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่า ภาพรวมปริมาณการผลิตไฟฟ้าของบริษัทในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 318.7 กิกะวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 300.5 กิกะวัตต์-ชั่วโมง
เนื่องจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศ สปป. ลาวเพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์ลานีญา และปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถชดเชยปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ มีการจำหน่ายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดในเดือนมิถุนายน 2567 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของบริษัท และบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศ สปป. ลาว
และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย ซึ่งสามารถชดเชยปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับการผลิตไฟฟ้าแต่ละประเทศ ในไตรมาส 3/2567 ได้แก่ 1) ประเทศไทย ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยเพิ่มจากไตรมาส 3/2566 เนื่องจากเกิดจากการปรับปรุงประสิทธิภาพแผงโซลาร์ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยบางส่วน
และปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ 3 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิตตามสัญญา 8.0 เมกะวัตต์ ที่กลุ่มบริษัทได้ดำเนินการเข้าชื่อกิจการแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ในขณะที่ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยลดลง
เนื่องจากความเร็วลมที่ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยลดลงจากปัจจัยฤดูกาลตามปกติ ในขณะที่ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากกำลังลมที่เพิ่มขึ้น
2) ประเทศญี่ปุ่น กลุ่มบริษัทประสบความสำเร็จในการจำหน่ายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ทั้งหมด 9 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 116.8 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 89.7 เมกะวัตต์) รวมถึงบริษัทย่อยในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Managennent) และการให้บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา (Operation & Maintenance) เป็นผลให้ในไตรมาส 3/2567 ไม่มีผลการดำเนินงานของธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น
3) ประเทศ สปป.ลาว สำหรับไตรมาส 3/2567 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศ สปป.ลาว เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2566 เนื่องจากปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศ สปป.ลาวเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล
ด้านส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม สหรัฐพบว่าในไตรมาส 3/2567 กลุ่มบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ ทั้งสิ้น 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 857 เมกะวัตต์ โดยปริมาณการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนถือหุ้นของโรงไฟฟ้าก๊าซในประเทศสหรัฐรวมประมาณ 1,670 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากการรับรู้ผลดำเนินงานเต็มไตรมาสของโรงไฟฟ้า Liberty และ Patriot จำนวน 426 เมกะวัตต์ โดยมีการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าในเดือนกรกฎาคม 2566 และการรับรู้ผลดำเนินงานส่วนเพิ่ม 280 เมกะวัตต์ของโรงไฟฟ้า CCE โดยมีการเข้าถือหุ้นเพิ่มในเดือนตุลาคม 2566
ทั้งนี้เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนถือหุ้นของโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการจัดการแผนซ่อมบำรุงที่มีประสิทธิภาพในไตรมาสก่อน ส่งผลให้เปิดดำเนินการได้ตามแผนซ่อมบำรุง
ขณะที่ธุรกิจคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือ ในไตรมาส 3/2567 ปริมาณใช้ถังเก็บน้ำมันและการใช้ท่ออยู่ที่ 689 และ 313.4 ล้านลิตร โดยปริมาณการใช้ถังเก็บน้ำมันลดลงเล็กน้อย จากช่วงไตรมาส 3/2566 ในขณะที่ปริมาณการใช้ท่อเพิ่มขึ้น จากการใช้ถ่ายขนน้ำมันของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 ปริมาณการใช้ถังน้ำมันลดลง ในขณะที่ปริมาณการใช้ท่อเพิ่มขึ้น จากการให้บริการขนถ่ายน้ำมันของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น