สรท.มั่นใจส่งออกไทยปี 2567 ฝ่ามรสุมได้ คาดโตมากกว่า 2% โค้งสุดท้ายยังขยายตัวได้ดี สำหรับส่งออกปี 2568 รอประเมินเดือนธันวาคม พร้อมจับตาการเลือกตั้งสหรัฐ
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.คาดการณ์การส่งออกปี 2567 เติบโตไม่ต่ำกว่า 2% จากเดิมที่มีการคาดการณ์ไว้ที่ 1-2% หรือมีมูลค่าราว 290,084 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาทแตะ 10 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ เป็นมาจากความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในการผลักดันส่งออก อีกทั้ง มองว่าการส่งออกเดือนตุลาคมคาดจะมีมูลค่าอยู่ที่ 25,983 ล้านเหรียญสหรัฐ และมั่นใจส่งออกโค้งสุดท้ายของปีจะดีมากกว่าเป้า อย่างไรก็ดี สรท.จะประเมินส่งออกปี 2568 ในเดือนธันวาคม 2567 นี้ พร้อมติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
สำหรับมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง ที่จะกระทบส่งออกไทย ได้แก่ 1) ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ 1.1) การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ มีกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้า มาตรการกำแพง และของสหรัฐอเมริกากับประเทศคู่ค้าที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐ ไม่เฉพาะจีนเท่านั้น 1.2) สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางยังคงยืดเยื้อ 2) ดัชนีภาคการผลิต Manufacturing PMI ยังคงชะลอตัวในตลาดสำคัญ
3) ปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังส่งผลต่อต้นทุนภาคการผลิต 3.1) ค่าเงินบาทยังมีความผันผวน แม้ว่าจะอ่อนค่าลงมาเล็กน้อยจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจากการประชุม กนง. ครั้งล่าสุด ขณะเดียวกัน FED มีแนวโน้มที่จะปรับ FED ลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 3.2) สถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางทะเลเริ่มผ่อนคลายและปรับลดลงจากช่วงเวลาก่อนหน้า มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างไรก็ตาม อาจต้องเฝ้าระวังหลายสัญญาณที่อาจเกิดขึ้นช่วงปลายปีอีกครั้งหนึ่ง 3.3) ราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่อง กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเปลี่ยนแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก จากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนธันวาคม จากความกังวลด้านอุปสงค์ที่ชะลอตัวในหลายตลาดสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ความยืดเยื้อของสงครามในตะวันออกกลางยังคงคุกรุ่นเป็นระยะส่งผลให้ทิศทางของราคายังคงมีคาวมผันผวน 4) มาตรการทางการค้าที่ต้องเฝ้าระวัง อาทิ 4.1) การยกเลิกมาตรการห้ามส่งออกข้าวของอินเดีย กระทบต่อผู้ส่งออกข้าวไทย 4.2) EUDR เลื่อนการบังคับใช้ออกไปเป็นปี 2569 กระทบราคาและการส่งมอบต่อผู้ส่งออกยางพารา
ทั้งนี้ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ดังนี้ 1) ต้องเฝ้าระวังค่าระวางการขนส่งสินค้าทางทะเล เนื่องจากปัจจัยหลายปัจจัย อาทิ สถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง และความไม่แน่นอนของการเจรจาค่าแรงในท่าเรือฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกายังคงมีอิทธิพลต่อตลาดการขนส่งทางทะเล และความพยายามของสายเรือที่จะปรับเพิ่มขึ้นค่าระวางในเดือนพฤศจิกายน
2) ต้องเฝ้าระวังความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน และเตรียมความพร้อมเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน รวมถึงต้องรักษาเสถียรภาพการเงินไม่ให้แข็งค่าเร็วเกินไป และ 3) เร่งรัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในกลุ่มประเทศศักยภาพ รวมถึงการเจรจาการค้าเสรี และการทำข้อตกลงเพื่อความร่วมมือทางการค้า
สำหรับภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนกันยายน 2567 กับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YOY) พบว่า การส่งออกมีมูลค่า 25,983.2 ขยายตัว 1.1% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 25,589.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.9% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนกันยายน 2567 เกินดุลเท่ากับ 394.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนมกราคม-กันยายน ของปี 2567 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YOY) พบว่า ไทยส่งออกรวมมูลค่า 223,176.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 3.9% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 229,132.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 5.5% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนมกราคม-กันยายน 2567 ขาดดุลเท่ากับ 5,956.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ