พาณิชย์เดินหน้าเจรจาสานสัมพันธ์การค้าการลงทุนของไทยในโมซัมบิก มุ่งขยายมูลค่าการค้าการลงทุนสองฝ่าย

พาณิชย์เดินหน้าเจรจาสานสัมพันธ์การค้าการลงทุนของไทยในโมซัมบิก มุ่งขยายมูลค่าการค้าการลงทุนสองฝ่าย รวมทั้งผลักดันความร่วมมือรอบด้าน เพื่อเชื่อมโยงสู่ตลาดแอฟริกาตอนใน

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้แทนไทย อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รวมทั้งภาคเอกชน เดินทางเยือนสาธารณรัฐโมซัมบิกอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ไทย – โมซัมบิก ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2561 ณ กรุงมาปูโต สาธารณรัฐโมซัมบิก เพื่อหารือแนวทางขยายการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับโมซัมบิก พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นความสำคัญของการอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุน และจะพิจารณาจัดทำความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน (Bilateral Investment Treaty : BIT) และความตกลงเพื่อการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อน (Double Tax Agreement: DTA) นอกจากนี้ ปัจจุบัน โมซัมบิกมีนโยบายเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น และได้เผยแพร่ข้อมูลกฎระเบียบส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจในโมซัมบิกเป็นภาษาอังกฤษแล้ว อีกทั้งโมซัมบิกไม่มีการจำกัดการโอนเงินออกจากประเทศสำหรับการชำระค่าสินค้านำเข้า หรือการโอนเงินของนักลงทุนต่างชาติ จึงเอื้อต่อการเข้าไปลงทุนของไทย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ อาทิ อัญมณี พลังงาน การประมง การเกษตร และการท่องเที่ยว ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ไทยได้เสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JTC ไทย – โมซัมบิก (ระดับรัฐมนตรี) ครั้งที่ 1 พร้อมทั้งเชิญโมซัมบิกเข้าร่วมงาน Bangkok Gems & Jewelry Fairs ในช่วงต้นปี 2562

นอกจากนี้ ได้นำภาคเอกชนไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีของโมซัมบิก ซึ่งนายกรัฐมนตรีโมซัมบิกได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่บริจาคข้าวให้แก่โมซัมบิก จำนวน 1,000 ตัน โดยข้าวดังกล่าวส่งถึงโมซัมบิกแล้ว เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 นอกจากนี้ ได้แสดงความสนใจที่จะให้ภาคเอกชนของไทยเข้ามาลงทุนในโมซัมบิก โดยเฉพาะในด้านการเกษตรและประมง และยินดีที่จะจัดสรรพื้นที่ของรัฐที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้แก่ภาคเอกชนไทยที่สนใจลงทุนในโมซัมบิกต่อไป ขณะที่ ภาคเอกชนไทยก็แสดงความสนใจที่จะลงทุนในด้านต่างๆ รวมทั้งการปลูกป่าเพื่ออุตสาหกรรมกระดาษ นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยเข้าเยี่ยมชมเหมืองของบริษัท Mustang Resources ที่ได้สัมปทานในจังหวัด Cabo Delgado ทั้งนี้ ทับทิมกว่าร้อยละ 60 ของการค้าทับทิมในตลาดโลกมาจากประเทศโมซัมบิก และจากการพบหารือกับผู้แทนบริษัท Mustang Resources ทราบว่าบริษัทฯ จะนำทับทิมจากเหมืองของบริษัทมาประมูลในไทยช่วงต้นปี 2562

ในปี 2560 โมซัมบิกเป็นคู่ค้าอันดับที่ 75 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 11 ในภูมิภาคแอฟริกา การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 219.84 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.9 จากปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกมูลค่า 204.05 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อย 37.8 จากปีก่อนหน้า และนำเข้ามูลค่า 15.79 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.3 จากปีก่อนหน้า โมซัมบิกยังเป็นประเทศที่ไทยลงทุนเป็นมูลค่าสูงที่สุดในทวีปแอฟริกา โดยปัจจุบัน ไทยลงทุนในโมซัมบิกมูลค่ากว่า 6,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสาขาสำคัญ อาทิ พลังงาน การก่อสร้าง โรงแรมและการท่องเที่ยว


สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปโมซัมบิก ได้แก่ ข้าว เม็ดพลาสติก รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ปูนซิเมนต์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และผ้าผืน ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากโมซัมบิก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่