“นภินทร” รมช.พาณิชย์ เชิญห้างท้องถิ่นต้นแบบ 70 รายทั่วไทย ร่วมหารือ 3 ประเด็นสำคัญในการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ปัจจุบันมูลค่าธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทยอยู่ที่ 3.64 ล้านล้านบาท โดยผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล มีจำนวน 22,935 ราย
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเชิญผู้ประกอบการ “ห้างท้องถิ่น” ที่ผ่านการพัฒนาและยกระดับจากกรม หรือ “ห้างท้องถิ่นต้นแบบ” จากทั่วประเทศ จำนวน 70 ราย ครอบคลุม 4 ภูมิภาค (เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง และภาคใต้) ร่วมหารือแลกเปลี่ยนความรู้ ปัญหา อุปสรรค และโอกาสที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น
ทั้งนี้ จากการหารือ ซึ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก ประเด็นแรก คือ พัฒนาผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง เช่น การอบรมให้ความรู้การทำธุรกิจ และการสนับสนุนเทคโนโลยีบริหารจัดการ ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้พัฒนาทักษะองค์ความรู้ผู้ประกอบการอยู่เสมอ หลายหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์มีหลักสูตรออนไลน์ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
บริการคลังความรู้เพื่อการทำธุรกิจ และแพลตฟอร์ม DBD SMEs 360 ที่รวบรวมบริการด้านเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เลือกใช้บริการด้วยต้นทุนที่ถูกลง รวมทั้งมีกิจกรรมโครงการที่บ่มเพาะผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นผ่านการให้คำปรึกษาเชิงลึก ณ สถานประกอบการ เพื่อพัฒนาให้เป็นห้างท้องถิ่นต้นแบบที่มีการบริหารจัดการธุรกิจที่ได้มาตรฐานและมีความสามารถในการแข่งขัน
ประเด็นที่สอง เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการและพันธมิตร เช่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นที่ผ่านการพัฒนา รวมถึงเชื่อมโยงไปยังร้านค้าปลีก (โชห่วย) ในพื้นที่เพื่อสร้างเครือข่ายในท้องถิ่นที่เข้มแข็ง
กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเข้มแข็งทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนห้างท้องถิ่นที่ทำหน้าที่ “พี่เลี้ยงโชห่วย” ช่วยพัฒนาร้านค้าโชห่วยในพื้นที่ให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” ที่มีภาพลักษณ์ร้านค้าที่ดีและมีการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการร้านค้า
การพาผู้ประกอบการศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดแนวคิดมุมมองใหม่ ๆ ในการดำเนินธุรกิจ และยังได้เน้นย้ำให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับห้างท้องถิ่นในการสนับสนุนสินค้าชุมชนให้มีพื้นที่จำหน่ายในห้างท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจัด “ตลาดพาณิชย์” ทั่วประเทศที่เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับหลายภาคส่วน รวมถึงห้างท้องถิ่นเพื่อเพิ่มช่องทางการขายและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่ และผู้บริโภคในพื้นที่
ประเด็นสุดท้าย คือ การรวมกลุ่มของห้างท้องถิ่นเพื่อทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ในการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์ได้ผลักดันประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนสินค้า ขณะที่ซัพพลายเออร์ก็สามารถขายสินค้าได้ในปริมาณมากขึ้น เกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างห้างท้องถิ่นกับซัพพลายเออร์
ซึ่งจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ลดค่าครองชีพของประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยกรมมีแผนรายปีร่วมกับห้างท้องถิ่นจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ พร้อมกับการสัมมนาสมาร์ทโชห่วยใน 4 ภูมิภาค รวมทั้งกิจกรรม Local Low Cost ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของห้างท้องถิ่นกว่า 90 ราย ร่วมกันจัดกิจกรรมลดราคาสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศในอนาคตด้วย
ปัจจุบันมูลค่าธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทยอยู่ที่ 3.64 ล้านล้านบาท โดยผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล มีจำนวน 22,935 ราย (ที่มา : รายงานผลการศึกษาจุดแข็ง-จุดอ่อนของห้างท้องถิ่นไทยโดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เดือนสิงหาคม 2567 และ DBD DataWarehouse+ เดือนกันยายน 2567)
“ทั้งนี้ ผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นที่สนใจสมัครเข้ารับการพัฒนา สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารโครงการ ‘พัฒนาห้างท้องถิ่นต้นแบบ’ ได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ Facebook Page สมาร์ทโชห่วย หรือ โทร.0-2547-5986 กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” รมช.พณ.กล่าวทิ้งท้าย