“นภินทร” เผยพาณิชย์ จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแนวทางแก้ปัญหานอมินี หวังกวาดล้างให้หมดไปจากประเทศ พร้อมเตรียมชง “พิชัย” รมว.พาณิชย์ เห็นชอบ ก่อนเสนอ ครม.ต่อไป
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ที่มีตัวแทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการวางแนวทางป้องกันและปราบปราม กรณีคนไทยทำธุรกรรมอำพราง (นอมินี) เพื่อช่วยเหลือให้คนต่างด้าวทำธุรกิจในไทยโดยเลี่ยงปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 ซึ่งมีข้อสรุปในการกำหนดแนวทางแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น, ระยะกลาง และระยะยาว
ทั้งนี้ หลังจากประชุมครั้งนี้ยังได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานไปสรุปผลความคืบหน้าการทำงาน แล้วให้มาสรุปผลในการประชุมครั้งหน้าในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ก่อนที่จะนำเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานพิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ
สำหรับมาตรการระยะสั้นนั้น จะใช้อำนาจของทุกหน่วยงานในการตรวจสอบ สืบสวน สอบสวนบุคคล หรือธุรกิจที่เสี่ยงเป็นนอมินี รวมถึงใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่ในการดำเนินคดี ส่วนระยะกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า อยู่ระหว่างจัดทำระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคค ที่มีผลต่อการการดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย (IBAS : Intelligence Business Analytic System)
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ที่มีหน้าที่ตรวจสอบพฤติกรรมของนิติบุคคลที่เข้าข่ายนอมินีสามารถคัดกรองอย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อจับผิดความผิดปกติของนิติบุคคลที่เข้าข่ายนอมินี คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในไม่เกิน 6 เดือน
ขณะที่ระยะยาว คือ จะแก้ไขกฎหมายของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้กรมไม่รับจดทะเบียน กรณีที่บุคคลที่มีความเสี่ยงสูงตามกฎหมายของปปง. เช่น เป็นอาชญากรข้ามชาติ มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัท ที่จะขอจดทะเบียนจัดตั้งกับกรม จากปัจจุบัน ที่กรมจะไม่สามารถจดทะเบียนให้กับบุคคลที่มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัทใน 2 กรณี คือ เป็นบุคคลล้มละลาย และเป็นบุคคลไร้ความสามารถ โดยการแก้ไขกฎหมายน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี
นอกจากนี้ ยังอาจแก้ไขพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยจะเพิ่มบทลงโทษกรณีการเป็นนอมินีให้มากขึ้น เพื่อให้เกรงกลัวการกระทำผิด
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหานอมินีมาก เพราะเป็นกรณีที่ต่างด้าวเข้ามาครอบงำธุรกิจของไทย ส่งผลเสียหายต่อธุรกิจไทย และทำลายเศรษฐกิจไทย จึงตั้งเป้าหมายให้นอมินีหมดไปจากประเทศ ดังนั้น ขอฝากเตือนคนไทยที่เป็นนอมินี ให้เลิกพฤติกรรมนี้ และให้แจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูลต่างๆ กับทางการ และจะกันไว้เป็นพยาน ซึ่งจะทำให้ความผิดลดลง ส่วนบุคคลที่กำลังได้รับการทาบทามให้เป็นนอมินี ก็ขอให้เลิกคิด เพราะเงินที่ได้ไม่คุ้มค่ากับโทษอาญาที่จะได้รับ”