
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้ง ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ทวีความรุนแรงเพิ่ม
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้น หลังประธานาธิบดีสหรัฐได้อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐในการโจมตีรัสเซีย โดยรัสเซียประกาศที่จะตอบโต้หากเกิดการโจมตีขึ้น ทั้งนี้ ตลาดกังวลว่ายูเครนจะมุ่งเป้าการโจมตีไปที่แหล่งผลิตน้ำมันในรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 18 พ.ย. 2567 อยู่ที่ 69.16 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.14 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 73.30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.26 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
Equinor บริษัทพลังงานสัญชาตินอร์เวย์เปิดเผยว่า ได้ระงับการผลิตน้ำมันจากแหล่ง Johan Sverdrup ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตกเนื่องจากสถานการณ์ไฟฟ้าดับ ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบในทะเลเหนือตึงตัว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขเพื่อเริ่มการผลิตอีกครั้ง แต่ยังไม่มีกำหนดการว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด
กระทรวงพลังงานของคาซัคสถานรายงานว่า แหล่งผลิตน้ำมัน Tengiz ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศได้ปรับลดการผลิตน้ำมันลง 28-30% เพื่อดำเนินการซ่อมบำรุง ส่งผลให้อุปทานน้ำมันตึงตัวมากขึ้น
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency : IEA) คาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกจะสูงกว่าอุปสงค์มากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2025 แม้การลดการผลิตจากกลุ่ม OPEC+ จะยังคงดำเนินต่อไป
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ ภายหลังจีนนำเข้าน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าจากอาทิตย์ก่อนหน้า สู่ระดับ 184,791 ตัน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังรัฐบาลจีนประกาศปรับลดอัตราการลดหย่อนภาษีจากการส่งออกน้ำมัน ส่งผลให้แนวโน้มปริมาณการส่งออกน้ำมันจากจีนจะปรับตัวลดลง