“พีระพันธุ์” ดัน กม.สำรองน้ำมัน SPR เข้าสภาต้นปีหน้า มั่นใจน้ำมันถูกลงลิตรละ 2.50 บาท

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

“พีระพันธุ์” ดัน กม.สำรองน้ำมัน SPR เข้าสภาต้นปีหน้า มั่นใจน้ำมันถูกลงลิตรละ 2.50 บาท

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงความคืบหน้าร่างกฎหมายระบบสำรองน้ำมันและก๊าซเชิงยุทธศาสตร์  Strategic Petroleum Reserve หรือ SPR ว่า ระบบ SPR จะเป็นแนวทางการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันผ่านการบริหารกลไกราคาน้ำมัน โดยใช้ปริมาณน้ำมันในสต๊อก ซึ่งไม่ได้ใช้เงินในการอุดหนุนเหมือนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

ในอดีตกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงถูกจัดตั้งขึ้นขณะเกิดวิกฤตการณ์น้ำมันโลก พ.ศ. 2516-2517 ตามกฎหมายฉบับเดิมกำหนดให้ผู้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงนำส่งกำไรที่เกิดจากการเพิ่มค่าเงินบาทเข้ากองทุนรักษาระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง (เงินตราต่างประเทศ) เพื่อเก็บไว้ใช้ทดแทนเมื่อราคาน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้น เรียกว่าเป็นการนำเงินจากผู้ค้าน้ำมันมาลงขันไว้เมื่อเกิดวิกฤตปัญหาก็นำเงินส่วนดังกล่าวมาชดเชย

ซึ่งแน่นอนว่ากฎหมายถูกตั้งขึ้นเป็นระยะเวลากว่า 50 ปี ปัจจุบันกลับส่งผลกระทบต่อประชาชนและเงินที่ถูกจัดเก็บมีจำนวนไม่เพียงพอเนื่องจากมูลค่าของเงินลดลง แต่สวนทางกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวนและราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯเป็นหนี้ติดลบ 85,997 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567)

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่จะมีการออก พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 กระทรวงพลังงานจะมีคณะทำงานดูแลกำหนดเพดานภาษีน้ำมันและดูแลการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่เมื่อ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่มีผลบังคับใช้ อำนาจในการกำหนดเพดานภาษีน้ำมันได้ถูกตัดไป ทำให้กระทรวงพลังงานคงเหลือเพียงอำนาจดูแลกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯสร้างหนี้ให้กับประเทศ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

ADVERTISMENT

“กฎหมายใหม่ที่จะออกมาใช้นั้น จะไม่เก็บเป็นเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ แต่จะเก็บเป็นน้ำมันจากผู้ค้า ซึ่งถือเป็นการลดภาระและลดการเรียกเก็บเงินจากผู้บริโภคได้ ซึ่งคาดว่าจะลดลงถึง 2.50 บาทต่อลิตร” นายพีระพันธุ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม กฎหมายการตั้งทุนสำรองน้ำมันเป็นการสร้างระบบอ้างอิงต้นทุนน้ำมันของไทย หรือ Cost Plus หากสามารถพัฒนาระบบอ้างอิงต้นทุนราคาน้ำมันของไทยได้ ก็สามารถยกเลิกการอ้างอิงราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกสะท้อนราคาตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับผู้ค้าน้ำมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมนำเข้ารัฐสภาในต้นปี 2568

ADVERTISMENT

“หลักการคือจะนำน้ำมันสำรองนี้มาดูแลปัญหาราคาน้ำมันแทนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะเปลี่ยนกองทุนน้ำมันฯที่ใช้เงิน และสร้างหนี้สาธารณะ ให้กลายมาเป็นทรัพย์สินของประเทศ”

ทั้งนี้ ปัจจุบันรัฐสามารถจัดเก็บน้ำมันได้ทุกวันเฉลี่ยวันละ 10% หรือ 10 ล้านลิตรต่อวัน หากเก็บได้ตามเป้าดังกล่าวก็จะได้ 3,000 ล้านลิตรต่อปี และขณะนี้มีคลังสำรองน้ำมันเหลือ 2,500 ล้านลิตร ทั้งนี้ รัฐจะต้องมีคลังจัดเก็บน้ำมันสำรองในเบื้องต้นตามมาตรฐานสากล 90 วัน หรือประมาณ 9,000 ล้านลิตร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับที่รัฐบาลสามารถควบคุมราคาได้