
“บางจาก ศรีราชา” เปิดแผนลงทุนช่วง 5 ปี (2568-2572) เน้นพัฒนาธุรกิจน้ำมัน-เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ปี 2568 ทุ่มเงินลงทุน 2-3 พันล้านบาท ปรับปรุงโรงกลั่น ขยายปั๊มบางจากใหม่ เพิ่มจำนวนร้านค้าภายในปั๊มอีก 500-700 Touchpoints หวังที่จะตอบสนองความต้องการลูกค้า
นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC ผู้นำธุรกิจโรงกลั่นปิโตรเลียมและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบครบวงจรของประเทศ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผนการลงทุนช่วง 5 ปี (2568-2572) ที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพธุรกิจน้ำมันเป็นหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ปรับปรุงโรงกลั่น ซึ่งมีหลายหน่วยถึงเวลาที่จะต้องปรับเปลี่ยน
รวมถึงพัฒนาท่าเรือรับน้ำมันให้สามารถรองรับเรือที่ขนาดใหญ่ได้ โดยจะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งต่อหน่วยลดลง และเร่งปรับรูปแบบสถานีบริการน้ำมันให้ทันสมัย โดยได้นำผลิตภัณฑ์น้ำมันเกรด Premium มาจำหน่าย รวมถึงการจำหน่ายน้ำมันเครื่องด้วย
โดยแผนงานดำเนินธุรกิจและการลงทุน ช่วง 5 ปี บริษัทได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะที่เงินลงทุนจะเน้นไปที่ธุรกิจที่เกี่ยวกับน้ำมัน ซึ่งมองว่าค่าการกลั่นอาจจะอยู่ในระดับเดียวกับปีนี้ แต่จากการลงทุนพัฒนาโรงกลั่นนั้น จะทำให้มีศักยภาพที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าสถานการณ์บ้านเมืองอาจจะไม่เอื้อต่อการลงทุน แต่ยืนยันว่าโรงกลั่นศรีราชา และโรงกลั่นพระโขนงของบางจากจะสามารถเดินหน้าเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทต่อไปได้
นอกจากนี้ บริษัทได้วางภารกิจหลักในการดำเนินธุรกิจในปี 2568 ภายใต้ความเสี่ยงทั้งปัจจัยราคาน้ำมัน และค่าการกลั่นผันผวนสูง โดยวางงบฯลงทุนราว 2,000-3,000 ล้านบาท ที่จะเน้นลงทุนในโรงกลั่นน้ำมัน เช่น การซ่อมบำรุง การปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่น และธุรกิจการตลาด
ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Nonoil) ภายหลังจากที่ได้รีแบรนด์ เปลี่ยนโลโก้จากสถานีบริการเอสโซ่เป็นบางจาก ซึ่งเป็นจุดแข็ง พร้อมที่จะขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่มขึ้น จาก 746 แห่งภายใต้แบรนด์บางจาก คาดว่าปี 2568 จะขยับเพิ่มเป็น 800 กว่าแห่งทั่วประเทศ
นายบัณฑิตกล่าวว่า สำหรับธุรกิจตลาดน้ำมัน ในปี 2568 บริษัทจะรุกธุรกิจ Nonoil มากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนร้านค้าต่าง ๆ ให้มากขึ้น ภายในสถานีบริการน้ำมัน พร้อมกับเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า จากปัจจุบันบริษัทมี Nonoil อยู่แล้ว 400 Touchpoints จะเพิ่มอีก 200 Touchpoints ในสิ้นปี 2567 และปี 2568 เพิ่มอีก 500-700 Touchpoints
ส่วนจำนวนสถานีบริการน้ำมันบางจากภายใต้ BSRC ในไตรมาส 3/2567 ปรับลดลงค่อนข้างมากจากไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 821 แห่ง ลดเหลือ 746 แห่ง ดังนั้น BSRC จึงเร่งขยายเครือข่ายสถานีบริการเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น และเร่งเดินหน้าปรับภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมันให้ทันสมัย ภายใต้แบรนด์บางจาก ซึ่งปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 95% และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2567
นอกจากนี้ ไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ยอดการใช้น้ำมันปรับเพิ่มขึ้น โดยบริษัทจะรักษาอัตราการกลั่นน้ำมันที่ 150,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ค่าการกลั่นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดี เป้าหมายกำลังการกลั่นที่ 150,000 บาร์เรลต่อวันถือว่าเป็นระดับที่มีความเหมาะสม และสร้างผลตอบแทนสูง
โดยในไตรมาส 2/2567 โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชาสามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยกำลังการกลั่นที่ 154,200 บาร์เรลต่อวัน จากช่วงที่เป็นบริษัทเอสโซ่ กำลังการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 130,000 บาร์เรลต่อวัน แต่หากต้องการกลั่นน้ำมันในอัตราที่สูงขึ้นจำเป็นต้องลงทุนปรับปรุงโรงกลั่นบางหน่วยเพื่อให้เดินเครื่องได้ตามกำลังการกลั่นของเครื่องจักรที่ 174,000 บาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ดี BSRC ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการเพื่อสรรค์สร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยโรงกลั่นน้ำมันบางจากศรีราชาใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในกระบวนการผลิต โดยมีดัชนีวัดอัตราและปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติต่อหน่วยการผลิตน้ำมันดิบ โดยอัตราดังกล่าวหากไม่เกินเป้าที่กำหนดก็จะเป็นตัวบ่งชี้การเป็นโรงกลั่นสีเขียวตามประกาศเจตนารมณ์ให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2579 และการลดก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (GHG Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593