4 สถาบันชาวไร่อ้อยผนึกกำลัง “ไม่เอา” โครงการรับซื้อใบอ้อยสดลดฝุ่น PM 2.5

อ้อย

หลังพบเลศนัย ไม่เชื่อชาวไร่อ้อยจะได้เงินเพิ่มครบถ้วน เหตุพ่อค้าเป็นคนกำหนดราคารับซื้อ ไร้วิธีตรวจสอบปริมาณซื้อขายใบอ้อยสด

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมเข้ามาว่า 4 สถาบันชาวไร่อ้อยได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย “คัดค้าน” มาตรการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2567/68-2569/70

โดยหนังสือฉบับดังกล่าวลงวันที่ 26 พ.ย. ทำในนามของสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย, สถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน, สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ได้แสดงความกังวลถึงการกำหนดมาตรการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยเพื่อเก็บเกี่ยวอ้อยสดลดฝุ่น PM 2.5 ของประธาน กอน.นั้นเป็นไปอย่างรีบด่วนและมีเลศนัย

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวถูกเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อให้ที่ประชุม “เห็นชอบ” มาตรการเพิ่มรายได้จากใบและยอดอ้อย โดยขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในการรับซื้อใบและยอดอ้อยเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบด้านพลังงานป้อนโรงไฟฟ้าชีวมวลหรือโรงงานที่ใช้ไฟฟ้าชีวมวลอยู่แล้ว นำไปเพิ่มราคารับซื้อใบและยอดอ้อยอีกตันละ 300 บาทหรือเท่ากับ 51 บาท/ตันอ้อย

ดังนั้น อ้อย 10 ตันสามารถเก็บรวบรวมใบและยอดได้ 1.7 ตัน การเพิ่มราคาใบและยอดอ้อยทุก 100 บาท/ตัน จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเท่ากับ 17 บาท/ตันอ้อย

ADVERTISMENT

โดยมาตรการดังกล่าวจะเป็นการจัดสรรเป็น “ส่วนเพิ่ม” ราคาขายใบและยอดอ้อยแก่ชาวไร่อ้อย ตันละ 200 บาทหรือเท่ากับ 34 บาท/ตันอ้อย และเป็นส่วนเพิ่มในการสร้างแรงจูงใจในการรับซื้อแก่ผู้รับซื้อใบและยอดอ้อยตันละ 100 บาทหรือเท่ากับ 17 บาท/ตันอ้อย นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดเป้าหมายปริมาณการซื้อขายใบและยอดอ้อยฤดูการผลิตปี 2567/68 ไว้ที่ 5 ล้านตันใบและยอดอ้อย

ปรากฏมาตรการการเพิ่มรายได้จากใบและยอดอ้อยดังกล่าว ในทางปฏิบัติชาวไร่อ้อยไม่สามารถขายใบอ้อยได้ทุกแปลง และยังเชื่ออีกด้วยว่า โครงการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 หากดำเนินการจริงจะมีชาวไร่อ้อยได้รับประโยชน์ไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ “ดังนั้นการให้ข้อมูลถึงผลประโยชน์ที่ชาวไร่อ้อยจะได้รับ หากมีการขายใบและยอดอ้อยของ กอน.จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง”

ADVERTISMENT

ล่าสุด สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ตั้งข้อสังเกตเรื่องเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยขายใบอ้อยและยอดอ้อยตันละ 200 บาทตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมแถลงข่าวไว้ 2 ประเด็นคือ

1) การกำหนดราคาซื้อใบอ้อย ณ ที่ไร่เป็นอำนาจของพ่อค้าซื้อใบอ้อย เช่น ไร่ละ 50 บาทหรือ 100 บาท พ่อค้าเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดในการกำหนดราคา เพราะมีผู้ซื้อใบอ้อยน้อยราย

2) เงินที่ (รัฐบาลช่วยเพิ่มราคาขายใบอ้อย) จ่ายผ่านพ่อค้าใบอ้อยไปแล้ว และคิดว่าพ่อค้าจะไปจ่ายต่อให้ชาวไร่อ้อยตันละ 200 บาท “ในชีวิตจริงเป็นไปไม่ได้เลย” เพราะไม่มีระบบอะไรจะไปตรวจสอบได้ว่า พ่อค้ารับซื้อใบอ้อยจะนำเงินไปจ่ายให้ชาวไร่อ้อยเท่าไหร่ พ่อค้าใบอ้อยอาจจะจ่ายให้ชาวไร่อ้อย 50-100 บาทก็ได้

3) กรณีที่ (รัฐจะจ่ายเงิน) ช่วยโรงงานซื้อใบอ้อยตันละ 100 บาทนั้น จะมีคำถามตามมามากมายว่า ทำไมต้องช่วยโรงงาน

4) จะตรวจสอบโรงงานได้อย่างไรว่า โรงงานรับซื้อใบอ้อยไปแล้วเท่าไหร่ เพื่อที่รัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือในการรับซื้ออีกตันละ 100 บาท เนื่องจากใบอ้อยที่โรงงานรับซื้อมาจะถูกเผาทุกวัน ไม่เหลือหลักฐานจะตรวจสอบได้

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏออกมาเช่นนี้ 4 สถาบันชาวไร่อ้อยจึงมีมติร่วมกัน “คัดค้าน” มาตรการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ช่วยกรณีที่ กอน.ถือเป็นมติที่ประชุมให้ดำเนินโครงการนี้ไปแล้ว โดยอ้างผู้แทนชาวไร่อ้อยในที่ประชุมนั้น

“ให้ถือเป็นว่า ผู้แทนชาวไร่อ้อยไม่ได้ศึกษาวิธีการและข้อมูลโครงการนี้โดยละเอียด จึงขอคัดค้านการดำเนินโครงการนี้” ชาวไร่อ้อยกล่าว