
ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ชูความสำเร็จด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์กฎหมาย EUDR และการยกระดับอุตสาหกรรมยางพาราไทย
นางสาวปภาวี ศรีสุทธิพงศ์ Business Development and Partnership Manager บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่งมั่นในการยกระดับอุตสาหกรรมยางพาราของประเทศไทย สู่อุตสาหกรรมยางพาราสีเขียว และจากการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “The Green Rubber Company” หรือ “องค์กรแห่งยางสีเขียวแบบครบวงจรอย่างยั่งยืน” ด้วยกลยุทธ์ “4 Green”
ได้แก่ 1) GREEN COMPANY การดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล การกำกับดูแลกิจการที่ดี บนรากฐานของความโปร่งใส มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน 2) GREEN PROCUREMENT ให้ความสำคัญกับการจัดซื้อวัตถุดิบยางธรรมชาติอย่างโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบย้อนกลับได้ ไปจนถึงการผลักดันให้เกษตรกรทำการผลิตยางพาราที่สะอาดและปราศจากสิ่งเจือปน
3) GREEN PROCESS มีกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสากลเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน การใช้พลังงานหมุนเวียน มีระบบการบริหารจัดการน้ำ ไปจนถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศ ซึ่งบริษัทกำหนดเป้าหมายเป็น Carbon Neutral Company ภายในปี 2030 และ Net Zero ภายในปี 2050
และ 4) GREEN PRODUCTS พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ปราศจากสิ่งเจือปนเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอบย้อนกลับได้ และผลิตสินค้าจากสวนยางที่ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
ทั้งนี้ ภายในงาน บริษัทได้รับเกียรติเป็นวิทยากรแชร์องค์ความรู้ในเวทีสัมมนาหัวข้อ “The Path to a Sustainable Natural Rubber Indutry : Embracing Innovation and Overcoming Challenges โอกาสและความท้าทายการปฏิวัติอุตสาหกรรมยางพาราสู่อนาคตที่ยั่งยืน” โดยพูดถึงปัญหาและสาเหตุที่มาของกฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป
โดยสหภาพยุโรปกำหนดให้การส่งออกยางพาราไปยุโรป ต้องแสดงข้อมูลที่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของผลผลิตว่าไม่อยู่ในพื้นที่ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของอุตสาหกรรมยางในประเทศไทย จากกฎระเบียบ EUDR บริษัทมองเป็นโอกาสในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และการเพิ่มมูลค่ายางไทยให้กับประเทศไทย
โดยกลุ่มบริษัทศรีตรังฯได้มีการนำ Digital Product ของบริษัทที่คิดค้นขึ้น มาพัฒนาต่อยอด และผนวกกับการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้เพื่อให้ตอบโจทย์กฎ EUDR และยกระดับอุตสาหกรรมยางพาราของประเทศไทยในระดับสากล ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศความพร้อมการจัดทำ “ยางมีพิกัด (GPS)” หรือ “Traceable Natural Rubber (GPS)” ซึ่งเป็นยางที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาได้ และสามารถต่อยอดสู่การทำ Carbon Neutrality และ Net-Zero Emissions ในอนาคต
บริษัทจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น Sri Trang Friends เพื่อรองรับการใช้งานของเกษตรกรและการจัดเก็บข้อมูลพิกัดแปลงปลูกยางพารา และแอปพลิเคชั่น Sri Trang Friends Station สำหรับผู้ค้ายางในการรับซื้อยางจากเกษตรกร รวมถึงบริการ Super Driver ที่เป็นบริการช่วยเชื่อมต่อระหว่างเกษตรกรสามารถขายยางและส่งยางกับโรงงานของบริษัทได้ง่ายขึ้น จนเกิดเป็นระบบนิเวศ “Sri Trang Ecosystem” ที่เชื่อมต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยางพาราทั้งหมดเข้าด้วยกัน
นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทยังมีการลงพื้นที่เพื่อเสริมสร้างทักษะการทำยางคุณภาพดี และความรู้ความเข้าใจการทำยางมีพิกัด (GPS) ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง และคู่ค้ายางไปแล้วมากกว่า 4,500 พื้นที่ทั่วประเทศไทย
บริษัทเชื่อว่าการใส่ใจด้านความยั่งยืนถือเป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยางพาราต้องตระหนัก และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง ซึ่งกลุ่มบริษัทศรีตรังฯจะไม่หยุดนิ่งในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ (ESG) ตามแนวทางของบริษัทในการรักษาความเป็นผู้นำองค์กรแห่งยางสีเขียวแบบครบวงจรอย่างยั่งยืนระดับโลกต่อไป
ล่าสุด บริษัทได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ “Outstanding Contributor in Sustainability” ภายในงาน SPOTLIGHT DAY 2024 SUSTAINABILITY DISRUPTION วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นโล่รางวัลแห่งความภาคภูมิใจของชาวศรีตรัง