องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เปิดข้อมูล ’10 ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง’ อบจ.

มานะ นิมิตรมงคล
มานะ นิมิตรมงคล

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ACT เปิดข้อมูล “10 ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง” ในองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่เกิดขึ้นในรอบ 20 ปี (พ.ศ. 2547-2567) พบจำนวนทุจริตน้อยกว่าที่สังคมรับรู้ แย่กว่านั้นหลายคดีเงียบ ขณะที่คนทำผิดส่วนใหญ่กลับรอด เฉพาะ “10 ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง” ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมมูลค่าความเสียหายประมาณการไม่น้อยกว่า 377 ล้านบาท

นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากผลโพลโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (2567) ระบุว่าประชาชนกว่า 95% รับรู้ว่ามีคอร์รัปชันโกงกินงบประมาณท้องถิ่นใน อบจ.เป็นจำนวนเงินมหาศาล และตามสถิติของ ป.ป.ช.ยังพบว่าคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นเรื่องที่มีการร้องเรียนมากที่สุด

เฉพาะปี 2566 ปีเดียวมีการร้องเรียนมากถึง 827 เรื่อง ไม่นับการร้องเรียนผ่านหน่วยงานอื่น ๆ อีก ได้แก่ ป.ป.ท. สตง. ตำรวจสอบสวนกลาง และศูนย์ดำรงธรรมอีกจำนวนหนึ่ง แต่ข้อมูลทุจริตจัดซื้อฯขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกลับหายากมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด หรือศาลตัดสินแล้วกลับพบน้อยมาก หากสืบค้นจากเว็บไซต์ ป.ป.ช. ในช่วงปี 2554-2563 พบข้อมูลแค่ 11 คดี จากนั้นไม่พบการอัพเดตข้อมูลอีกเลย

นอกจากนั้น ยังพบอีกว่าช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมามี “คดีร่ำรวยผิดปกติ” น้อยมาก กล่าวคือพบคดีร่ำรวยผิดปกติที่ศาลตัดสินยึดทรัพย์แล้ว 1 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีอีกเพียง 2 คดีเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ระบบ ACT Ai (actai.co) แสดงข้อมูลการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองต่อ ป.ป.ช. พบว่า นายก อบจ. หลายคนมีทรัพย์สินเป็นพันล้านบาท และนายก อบจ.จำนวนมากรวยเกินร้อยล้านบาท ไม่นับรวมความมั่งคั่งของคนในครอบครัว

“ตัวเลขอย่างนี้ผมขอชวนประชาชนช่วยกันถาม ป.ป.ช. และมหาดไทย ว่าพวกท่านคิดอย่างไร สงสัยบ้างไหมว่าทำไมคนไทยทั้งประเทศรู้ว่ามีคอร์รัปชัน แต่พวกท่านไม่รู้จริงหรือ ? ทั้งหมดคือความจริงที่ต้องย้ำให้คนไทยตระหนักว่า หากเราปล่อยให้พวกคดโกงชนะการเลือกตั้งครั้งใหญ่ต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเกิดวิกฤตใหญ่ตามมาอย่างไร” เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าว และว่า

ADVERTISMENT

เมื่อดูจากเรื่องที่สังคมรับรู้และคดีที่มีคนร้องเรียนในแต่ละปี ฟันธงเลยว่าส่วนใหญ่รอดและหลายคดีเงียบ เกี่ยวกับลักษณะการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างใน อบจ.เฉพาะ 10 ทุจริตที่องค์กรค้นพบและเผยแพร่นี้ https://bit.ly/3ZpCOPC

สะท้อนให้เห็นความหลากหลายกลโกงในการจัดซื้อฯ มีทั้งให้บริษัทพรรคพวกหรือคนในครอบครัวมารับงาน มีการทำเอกสารเท็จ ปกปิดข้อมูล ไม่เปิดประมูลทั่วไป แต่เน้นใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ฮั้วประมูล อบจ.เองบริหารสัญญาจนรัฐเสียเปรียบ ฯลฯ

ADVERTISMENT

“ถ้ามองในแง่ของกระบวนการยุติธรรมสะท้อนให้เห็นว่า การพิจารณาคดีคอร์รัปชันใช้เวลานานมาก แม้ศาลตัดสินว่าผิดจริงก็ลงโทษเบา รอลงอาญาก็มาก และเกือบทั้งหมดไม่ยึดทรัพย์คนโกง”

ถามว่า มองเห็นทางออกของการตัดห่วงโซ่คอร์รัปชันระหว่างนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ นักธุรกิจฮั้วประมูล หรือทุจริตจัดซื้อจัดจ้างได้หรือไม่ ? เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ บอกว่า ทำได้ แต่ต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพราะทุกกลโกงย่อมมีช่องโหว่ โดยยกตัวอย่างกรณี “กำนันนก นครปฐม”
ประมูลงานรัฐได้กว่าหมื่นล้านบาทด้วย เพราะมีเครือข่ายใหญ่ มีบ้านใหญ่หนุนหลัง

ดังนั้น หน่วยงานรัฐอย่าง “ปปง.” ต้องสอบเส้นทางการเงิน แล้วร่วมมือกับหน่วยงานด้านภาษี ทั้งสรรพากร ศุลกากร เชิญชวนมาร่วมตรวจสอบตัดวงจรเอกชนทุกรายที่เกี่ยวข้อง เช่น ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ผู้รับเหมาช่วง ไปตรวจการเสียภาษีรายได้ ภาษีการค้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม ใครออกใครใช้ใบเสร็จปลอม การซื้อขายวัตถุดิบ การสต๊อกสินค้า การส่งออกนำเข้าสินค้า จำนวนลูกจ้าง เป็นต้น

ขณะที่ตัว อบจ.เอง หากมีเจตนารมณ์ดีในการดูแลคุณภาพชีวิตคนในชุมชน สามารถบริหารงบประมาณแบบเน้นการมีส่วนร่วมกับประชาชน และมีการเปิดเผยข้อมูลให้ทุกคนเข้าถึงได้ หรือที่เรียกว่ากระบวนการจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วม (Participatory Budgeting) เป็นต้นว่า แผนการจัดทำโครงการลงทุนของ อบจ.จะทำอะไร ใช้งบประมาณเท่าไหร่ต้องให้ประชาชนรู้และร่วมตัดสินใจว่าอะไรเกิดประโยชน์ร่วมกัน อะไรฟุ่มเฟือย จะต้องมีการเผยแพร่งบประมาณประจำปี จากนั้นทุก 6 เดือนก็กลับมารายงานว่าทำอะไร ใช้เงินไปจำนวนมากน้อยแค่ไหน

“สำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องร่วมปกป้องผลประโยชน์ของท้องถิ่นสอดส่องสิ่งผิดปกติ และอย่าเลือกคนซื้อเสียงให้เขากลับมาถอนทุนคืน” เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าว

ข้อมูลทุจริตองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)

กระทำทุจริตมากที่สุดถึง 42 คดี ขณะที่ อบจ.สงขลายังมีคดีทุจริตพัวพันอดีตนายก อบจ. มากกว่าจังหวัดใดในประเทศไทย

1.ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง 42 คดี ของอดีตนายก อบจ.อุบลราชธานี ผู้มีคดีทุจริตมากที่สุดในประเทศไทย
ปี 2566 นายพรชัย โควสุรัตน์ อดีตนายก อบจ.อุบลราชธานี 3 สมัยระหว่างปี 2547-58 กับพวกถูกร้องเรียนมากถึง 42 คดี ป.ป.ช.ชี้มูลไปแล้วหลายคดี มูลค่าความเสียหายรวมสูงถึง 114 ล้านบาท ทำให้นายพรชัยกลายเป็นนายก อบจ. ที่มีคดีทุจริตมากที่สุดในประเทศไทย หลายคดีถูกศาลอาญาคดีทุจริตฯพิพากษาจำคุก รวมระยะเวลาจำคุกกว่า 30 ปี ปัจจุบันนายพรชัยอยู่ในสถานะหนีคดี

2.ทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ โดยอดีตนายก อบจ.ปทุมธานี ปี 2554 เกิดอุทกภัยในจังหวัด ทำให้ อบจ.ปทุมธานีจัดซื้อถุงยังชีพ 2 ครั้ง รวม 6,000 ถุง มูลค่า 3 ล้านบาท เป็นเหตุให้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายชาญ พวงเพ็ชร์ และพวกรวม 12 คน ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และละเลยไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่เมื่อศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดี

ส่งผลให้นายชาญต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเพิ่งชนะการเลือกตั้งได้เป็นนายก อบจ.ปทุมธานี ต่อมาปี 2567 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 6 ปี 18 เดือน นอกจากนี้ นายชาญยังมีคดีจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายราคาแพงเกินจริงถึงกว่า 40 ล้านบาท ปัจจุบันเรื่องอยู่ระหว่างไต่สวนของ ป.ป.ช.

3.ทุจริตจ้างเหมาขุดลอกลำน้ำของ อบจ.ลำปาง ช่วงปี 2549-2550 นางสุนี สมมี อดีตนายก อบจ.ลำปาง พร้อมพวก 9 คน ร่วมกันทุจริตโครงการจ้างเหมาขุดลอกลำน้ำ ต่อมา ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เพราะพบว่ามีการ “จัดฉากตั้งบริษัทรับเหมา” เพื่อเข้าร่วมประมูลรับงานมากถึง 29 โครงการ มีการทำใบเสนอราคาเท็จ
ยื่นเสนอราคาเท็จ และปลอมลายมือชื่อกรรมการเปิดซองสอบราคา เพื่อใช้เบิกจ่ายเงินงบประมาณ
มีการจ่ายเงินทอน คิดเป็นเงินเกือบ 100 ล้านบาท แถมยังใช้สำนักงาน อบจ. ลำปางเป็นที่แบ่งเงินทุจริต

ส่วนผู้รับเหมาที่ทำงานจริงรับเงินแค่ 60% ศาลพิพากษาจำคุกรวม 116 ปี แต่ให้คงจำคุกจริง 50 ปี นอกจากนี้ นางสุนียังถูกจำคุก 8 ปี จากคดีทุจริตจ้างเหมาถมดินอีก 7 โครงการ และมีคดีฐานยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ศาลฎีกาสั่งห้ามดำรงตำแหน่งการเมือง 5 ปี จําคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 1 ปี

4.ทุจริตเงินอุดหนุนสมาคมกีฬา โดยอดีตนายก อบจ.พิจิตร ปี 2565 นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.พิจิตรกับพวก ถูก  ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจากการมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่สมาคมกีฬาจังหวัดพิจิตร ซึ่งตนดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนั้นด้วย

เมื่อสมาคมมีหนังสือขอรับเงินสนับสนุนจาก อบจ.พิจิตรโดยไม่มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายในโครงการประกอบการพิจารณา นายชาติชายอนุมัติเบิกจ่ายเงินตลอด 3 ปีเป็นเงินรวม 15,654,115.12 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้สมาคมกีฬาฯได้ส่งต่อให้แก่ทีมสโมสรฟุตบอลที่นายชาติชายเป็นที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอลพิจิตรเอฟซี และผู้จัดการสนาม สโมสรฟุตบอล ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้มีคำพิพากษาจำคุก 9 ปี 12 เดือน ปัจจุบันคดียังไม่สิ้นสุด จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ได้

5.ทุจริตจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายและหนังสือเรียน โดยอดีตนายก อบจ. กำแพงเพชร ปี 2565 นายจุลพันธ์ ทับทิม อดีตนายก อบจ.กำแพงเพชร ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ฐานทุจริตจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย และศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก 12 ปี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ได้ ต่อมา ปี 2567 ก็ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตจัดซื้อหนังสือและสื่อการเรียนการสอน 3 โครงการ มูลค่ารวม 2 ล้านบาท ด้วยวิธีพิเศษ ฐานละเลยปฏิบัติหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง คดีนี้หมดอายุความแล้ว

6.ทุจริตจัดซื้อท่อระบายน้ำมิชอบ โดยอดีตนายก อบจ.พะเยาปี 2561 นายวรวิทย์ บุรณศิริ อดีตนายก อบจ.พะเยา ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจากการจัดซื้อท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก งบประมาณ 241,800 บาท เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในจังหวัด ต่อมาปี 2564 ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษนายวรวิทย์ บุรณศิริ จำคุก 2 ปี และปรับ 40,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี

นอกจากนี้ นายวรวิทย์ยังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตจัดซื้อต้นกล้ายางพาราเพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกร 426,250 ต้น งบประมาณ 17,050,000 บาท ปัจจุบันคดีนี้อยู่ในชั้นศาลพิจารณา

7.ทุจริตทำถนน 6 โครงการ โดยอดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ปี 2567 นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ถูก ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคดีทุจริตโครงการก่อสร้างถนนหลายโครงการ โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก 25 ปี ส่วนบริษัทผู้รับเหมา 3 รายถูกปรับรายละ 40,000 บาท โดยกรรมการผู้มีอำนาจลงนามทุกรายโดนโทษจำคุก อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังสามารถอุทธรณ์ต่อได้ คดีนี้จึงยังไม่สิ้นสุด

8.ทุจริตเงินอุดหนุนวัด โดยอดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ ปี 2565 ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ กับพวกทุจริตการจัดสรรเงินอุดหนุนวัดในจังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างปี 2554-2556 รวม 68 โครงการ งบประมาณรวม 836,129,125 บาท โดยเงินเหล่านี้จะต้องนำไปใช้เพื่อบูรณะบำรุงวัดและเตาเผาศพ แต่กลับมีเงินทอนครึ่งหนึ่งของเงินอุดหนุนที่วัดเหล่านี้ควรจะได้ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดย ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและทำส่งสำนวนให้กับอัยการสูงสุดเพื่อส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ

9. 5 คดีทุจริต โดยอดีตนายก อบจ.สงขลา ระหว่างปี 2551-2552 นายนวพล บุญญามณี อดีตนายก อบจ.สงขลา กับพวก ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เริ่มที่คดีแรก ทุจริตโครงการส่งเสริมพัฒนาสุขภาพประชาชน โครงการตรวจสุขภาพผู้สูงอายุด้วยการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ พร้อมชี้มูลความผิดเอกชนที่เป็นสถานพยาบาล ฐานร่วมกันสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการทุจริตต่อการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐด้วย ปัจจุบันคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

คดีที่สอง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดการสมยอมกันเสนอราคาโครงการจัดซื้อกุ้งก้ามกราม 40 ล้านตัว งบประมาณ 10,000,000 บาท โดยเอื้อประโยชน์แก่ผู้เสนอราคาบางราย คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฯ พิพากษาจำคุก 7 ปี คดีที่สาม ทุจริตการสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท 30 เส้นทาง วงเงินรวม 8,068,000 บาท ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา

คดีที่สี่ คดีนำรถยนต์ราชการไปจำนำที่บ่อนการพนัน ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 18 ปี 24 เดือน คดีที่ห้า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโครงการจ้างสำรวจและออกแบบถนนลาดยางทางหลวงชนบท ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก 2 ปี มีข้อสังเกตว่าจังหวัดสงขลายังมีคดีทุจริตพัวพันอดีตนายก อบจ.มากกว่าจังหวัดใดในประเทศไทยเมื่อนับรวมอีก 2 รายคือ นายนิพนธ์ บุญญามณี และนายอุทิศ ชูช่วย

10.ทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ “แคร์เซ็ต” โดยอดีตนายก อบจ.ลำพูน ช่วงโควิดระบาดปี 2563 นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูนในขณะนั้น จัดซื้อชุดของใช้ประจำวันเพื่อแจกผู้สูงอายุ (Care Set) วงเงิน 16,343,000 บาท

ต่อมา ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดตามกฎหมายอาญาและกฎหมายฮั้ว แล้วยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ จนมีคำพิพากษาในปี 2566 ให้จำคุกเจ้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง คนละ 2 ปี ปรับ 120,000 บาท ให้จำคุกรองปลัด อบจ. 3 ปี และร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 5,918,769.80 บาท พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ อบจ.ลำพูน ส่วน รองนายก อบจ. 2 คน ปลัด 1 คน และรองปลัด 1 คน ศาลพิพากษาให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี