
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มเล็กน้อย หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงและเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัว สนับสนุนเฟดลดดอกเบี้ยต่อปีหน้า
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ชะลอตัวลงสนับสนุนนโยบายลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในปีหน้า ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงทำให้น้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือครองเงินสกุลอื่น
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 20 ธ.ค. 2567 อยู่ที่ 69.46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.08 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 72.94 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.06 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
Sinopec ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ของจีนได้ออกรายงานแนวโน้มพลังงานประจำปี โดยระบุว่า การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลกอาจถึงจุดสูงสุดได้เร็วที่สุดในปี 2568 และการบริโภคน้ำมันภายในประเทศจะถึงจุดสูงสุดภายในปี 2570 จากการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและการเพิ่มขึ้นของรถบรรทุกที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นเชื้อเพลิง
นายโดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุว่า สหภาพยุโรปอาจต้องเผชิญกับมาตรการขึ้นภาษีจากสหรัฐ หากไม่สามารถลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐ ที่มีต่อสหภาพยุโรป โดยสหรัฐต้องการให้สหภาพยุโรปปรับเพิ่มการซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกับสหรัฐให้มากขึ้นเพื่อลดตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐ
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินในฟิลิปปินส์ปรับตัวลดลงและจีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น ในเดือน ม.ค. 68 อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงหนุนจากการที่สิงคโปร์รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 18 ธ.ค. 67 ปรับลดลง 3.6% จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ระดับ 14.84 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอินเดียและซาอุดีอาระเบียส่งออกน้ำมันดีเซลมายังภูมิภาคเพิ่มขึ้น และโรงกลั่นในอินโดนีเซียเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตหลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดี ราคาได้รับแรงหนุนจากการที่สิงคโปร์ส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 50% อยู่ที่ระดับ 0.36 ล้านตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนอุปสงค์ในภูมิภาคฟื้นตัว