
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เผยแพร่ข้อมูล “10 กรณี คอร์รัปชั่นแห่งปี 2567” ที่ทำคนไทย “เจ็บ” และ “จน” หลายกรณียัง “ไม่จบ” ทั้งหมดล้วนเกิดจากภาคเอกชนสมคบกับเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการครอบงำ วิ่งเต้น ขาดความรับผิดชอบ ใช้อำนาจไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม เป็น “วิกฤต” ที่คนไทยต้องช่วยกันติดตาม ทวงถามและเฝ้าระวังต่อไป
นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดเผยถึงกรณี/คดีคอร์รัปชั่นที่ได้รับความสนใจและเป็นที่พูดถึงในสังคมวงกว้างในรอบปี 2567 ที่ผ่านมาว่า หลายกรณีเป็นการโกงกันซึ่ง ๆ หน้า ค้านสายตาประชาชน ที่สำคัญ ยังคงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดล้วนสะท้อนการปฏิบัติหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายที่ขัดหลักนิติธรรมรุนแรง ทั้งนี้ 10 กรณีทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งปี 2567 ประกอบด้วย
- กรณีลดโทษ พักโทษ มอบอภิสิทธิ์ให้นักโทษคดีโกงชาติ
นักโทษชั้น 14 ที่ไม่เคยนอนเรือนจำ และนักโทษคดีจำนำข้าว เช่น นายบุญทรง เสี่ยเปี๋ยง ได้เป็นอิสระเร็วเกินคาด ขณะที่อดีตข้าราชการในคดีเดียวกันยังติดคุกอยู่ แม้ไม่เชื่อมโยงกับการทุจริตที่เป็นตัวเงิน แต่การลดโทษ พักโทษ มอบอภิสิทธิ์ให้นักโทษคดีโกงชาติ คือ “โกงซ้อนโกง”
ถึงวันนี้นักการเมืองและข้าราชการบางคนยังจับมือกันปกปิดความจริง ปฏิเสธกระบวนการตรวจสอบ โดยไม่สนใจว่าจะค้านสายตาประชาชนและสังคมโลก
- กรณีไฟไหม้รถนำเที่ยวเด็กนักเรียน สูญเสีย 22 ชีวิต
โศกนาฏกรรมนี้ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนเรื่องก็เงียบ ไม่มีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกคนใดต้องรับผิดชอบเลย! ไม่มีท่าทีของรัฐมนตรี และรัฐบาลที่จะหยุด “ส่วย-สินบน” ในหน่วยงานรัฐเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ทั้งที่เราต่างรู้แก่ใจว่าทุกวันนี้มีรถเถื่อน รถผิดกฎหมายวิ่งอยู่เต็มท้องถนน พร้อมจะนำความตายมาสู่ใครอีกก็ได้
- คดีนายอิทธิพล คุณปลื้ม
ศาลคอร์รัปชั่นชี้ว่า “ผิดจริง” แต่ยกฟ้องเพราะคดีขาดอายุความ แถมตำหนิ “ป.ป.ช.” ว่า ไม่ใส่ใจทำคดี คำพิพากษานี้ยังทำให้เกิดประเด็นต้องติดตามอีกว่า เป็นการเปลี่ยนหลักกฎหมายเดิมที่กำหนดให้การหนีคดีของจำเลยทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ใช่หรือไม่ ?
- กรณีฮุบที่รถไฟ เขากระโดง
หลักนิติธรรมของประเทศถูกทำลาย เมื่ออิทธิพลนักการเมืองใหญ่เหนือคำพิพากษาศาลฎีกา และศาลปกครองสูงสุด กรมที่ดินและการรถไฟฯ โยนเรื่องกันไปมา เลือกหยิบยกข้อกฎหมายไปตีความจนบิดเบี้ยว มาดูกันว่า สุดท้ายแล้วสมบัติของชาติจะได้รับการปกป้องหรือรัฐต้องจ่ายค่าโง่อะไร ก่อนที่ ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเหล่านั้นจะได้สิทธิเช่าระยะยาวบนที่ดินหลวงในราคาแสนถูก
- กรณีสัมปทานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
โครงการมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทนี้ พ่วงด้วยสิทธิบริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ และที่ดินย่านมักกะสัน แม้การประมูลจบไปแล้ว 5 ปี แต่รัฐยังเปิดให้เอกชนเจรจาแก้สัญญาไม่รู้จบ เฉือนประโยชน์รัฐเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขัดต่อหลักพื้นฐานการประมูลงานภาครัฐอย่างเป็นธรรม ถ่วงการพัฒนาโครงการ อีอีซี จนนักลงทุนต่างชาติเยาะหยันว่ามาทำธุรกิจเมืองไทย หากไม่มีพวกพ้องก็อยู่ไม่ได้ ความโปร่งใสเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน
- กรณีฮุบป่า รุกที่ ส.ป.ก. หลายแสนไร่ทั่วประเทศ
เป็นดั่งยุคทองของพวกทำลายป่า เมื่อรัฐบาลมีนโยบาย ส.ป.ก. ทองคำ แก้กฎหมายให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนดใช้ทำมาหากินได้แทบทุกอย่าง ซื้อขายสิทธิง่าย จำนองธนาคารได้ วันนี้ ส.ป.ก. กว่าร้อยละ 30 อยู่ในมือนายทุน และยังคงถูกบุกรุกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความสูญเสียเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น หากข้าราชการและนักการเมืองไม่มีเอี่ยว ความหวังยังพอมีเมื่อ ผอ.ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และข้าราชการจำนวนหนึ่งกล้าปะทะกับอดีต รมว.เกษตรฯ เพื่อให้พวกท่านเหล่านั้นมีพลังปกป้องผืนป่ามากขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนต้องแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
- กรณีขุด/ขนย้ายกากแร่แคดเมียม
สังคมตื่นตระหนกเพราะกากแร่อันตรายที่เคยถูกกลบฝังกลับขุดมาขายได้ ขนย้ายผ่านไปหลายจังหวัด โดยประชาชนไม่รู้อะไรเลยเพราะทุกอย่างถูกปิดบัง กฎหมายและนโยบายของรัฐเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมแอบถูกแก้ไขและบิดเบือน ถึงวันนี้ทุกอย่างเงียบหาย ไม่ปรากฏข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานใดถูกลงโทษจริงจัง
- กรณีหมูแช่แข็งเถื่อน
มีผู้สมรู้ร่วมคิด 3 ฝ่าย หนึ่ง-เจ้าหน้าที่รัฐบางคนในกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมประมง อาหารและยา สอง-กลุ่มนักการเมืองใหญ่ สาม-กลุ่มนายทุนนำเข้า บริษัทชิปปิ้ง ทั้งนายทุนรับซื้อสินค้าไปจำหน่ายหรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เนื้อหมูแช่แข็งเถื่อนทำลายความมั่นคงทางอาหารของชาติ ผู้เลี้ยงหมูเดือดร้อนทั่วประเทศ ขณะที่คนไทยต้องเสี่ยงภัยกับเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง และเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมา
- กรณีปลาหมอคางดำ
วิกฤตสัตว์น้ำขั้นรุนแรงกินวงกว้าง เกิดจากเอกชนรายใหญ่เห็นแก่ได้ ไร้ความรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละมองข้ามความปลอดภัยของสังคม เกรงใจพ่อค้า โกงความคาดหวังของประชาชน
- กรณีดิ ไอคอน
คดีดังที่แฉให้เห็นพฤติกรรมรุมกันเรียกรับสินบนของคนจากหลายหน่วยงานรัฐ นักการเมือง และบุคคลที่สังคมเคยไว้วางใจ คดีนี้ฉุดกระชากเหล่าซาตานในคราบเทวดาให้ตกสวรรค์ เผยให้สังคมเห็นคอร์รัปชั่นที่ทำให้ประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อถูกรัฐทอดทิ้งยามเดือดร้อน
ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันยังกล่าวอีกว่า นอกจาก 10 กรณี/คดี ดังกล่าวมาแล้ว ภาพรวมของการทุจริตคอร์รัปชั่นในปี 2567 เกิดกรณีและคดีโกงแบบซึ่ง ๆ หน้ามากมายทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน เช่น ข่าวสองนายพลตำรวจเอกต่างสาวไส้พฤติกรรมหากินกับบ่อนพนันออนไลน์ นายพลตำรวจดังแฉว่าตนรู้เห็นพฤติกรรมกรรมการ ป.ป.ช.คนหนึ่งวิ่งเต้นบิ๊กทหารเพื่อให้ได้ตำแหน่ง ฯลฯ ไปจนถึงสินบนข้ามชาติ และคนไทยต้องช็อกกับข่าวการโกงของคนดังที่สังคมไว้วางใจ เช่น หมอ ดาราดัง ทนายความ นักร้องเรียน ฯลฯ
แม้จะมีปรากฏการณ์ที่ช่วยพยุงจริยธรรมสังคมไทยให้เห็นอยู่บ้าง จากกรณีการถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีจากการลงนามแต่งตั้งผู้ที่เคยมีคดีทุจริตเป็นรัฐมนตรี ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญชัดแจ้ง และข่าวรัฐบาลฟินแลนด์ร้องเรียน 2 อดีตรัฐมนตรีแรงงานไทยเอี่ยวคดีค้ามนุษย์ รีดค่านายหน้าคนแรงไทยกันเอง แต่นับเป็นอีกปีที่เห็นได้ชัดว่า “รัฐบาลไม่ใส่ใจการต่อต้านคอร์รัปชั่น” คอยแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แนวทางเช่นนี้จะทำให้สถานการณ์คอร์รัปชั่นเลวร้ายลง จนส่งผลเสียในการขับเคลื่อนนโยบายและการลงทุนโครงการของรัฐบาล เพราะจะทำอะไรสังคมก็ระแวง คัดค้าน ขาดความเชื่อมั่น
“เราจะเอาชนะคอร์รัปชั่นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนและสื่อมวลชนเข้มแข็ง ติดตามและต่อต้านไม่ยอมให้ใครคดโกงบ้านเมืองแล้วเงียบหายไปเฉย ๆ เช่นทุกวันนี้” ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันกล่าว