ครม.ไฟเขียว ร่างพ.ร.บ.ปฏิรูปสภาพัฒน์-เซตซีโร่ “บอร์ดสภาพัฒน์” ภายใน 180 วัน หลังกม.บังคับใช้

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 4/2561 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตรและอุทัยธานี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. …. โดยกำหนดให้ทำหน้าที่ให้ความเห็น คำปรึกษาและข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีและครม.จัดทำร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนดกรอบทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศไทยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมทั้งของประเทศและโลก รวมทั้งกำหนดให้มีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อดำเนินงานในฐานะฝ่ายเลขานุการของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้วย

สำหรับสาระสำคัญในร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว อาทิ กำหนดให้มี “สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” ประกอบด้วย ประธานสภา 1 คน และกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกิน 15 คน และให้ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการ ก.พ. เลขาธิการ ก.พ.ร. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการสภา และให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ

กำหนดให้ประธานสภาและกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี ได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน

กำหนดให้มีคณะกรรมการยกร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในแต่ละด้านเพื่อเสนอต่อสภาพิจารณา โดยต้องมีการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพื่อนำมาประกอบการยกร่างด้วย

กำหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีและงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดในแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

กำหนดให้มีคณะกรรมการประสานงานการดำเนินงานด้านยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ทำหน้าที่วิเคราะห์ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ

บทเฉพาะกาล ให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตามพ.ร.บ.พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ.2521 ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวใช้บังคับปฏิบัติหน้าที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพลางก่อน แต่ไม่เกิน 180 วันนับตั้งแต่ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวบังคับใช้

ให้โอนบรรดาภารกิจ อำนาจหน้าที่ ทรัพย์สิน งบประมาณ สิทธิ หนี้ ภาระผูกพัน ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง และอัตรากำลังไปเป็นของสำนักงานสภาพัฒนาดารเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ยังคงใช้ได้ต่อไปและใช้ได้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565