
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐต่ำกว่าคาด ท่ามกลางความกังวลสหรัฐคว่ำบาตรรัสเซีย
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวสูงขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 10 ม.ค. 68 ปรับลดลง 2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 412.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงเพียง 0.9 ล้านบาร์เรล และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 65 เนื่องจากปริมาณการส่งออกที่ปรับเพิ่มขึ้น และปริมาณการนำเข้าที่ลดลง
ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงกังวลผลกระทบต่ออุปทานและการขนส่งน้ำมันดิบ หลังสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียรอบใหม่
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 15 ม.ค. 2568 อยู่ที่ 80.04 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.54 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 82.03 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.11 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้เร็วขึ้นจากเดือน ก.ย. เป็นเดือน มิ.ย. หลังดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ในเดือน ธ.ค. 67 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.2% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ 3.3% ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวสูงขึ้น
อิสราเอลและกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในการเจรจาที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ หลังสงครามความขัดแย้งยืดเยื้อมานานถึง 15 เดือน โดยจะเริ่มหยุดยิงเฟสที่ 1 ในวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค.นี้ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ และทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนตัวประกัน รวมถึงอิสราเอลจะถอนกำลังทหารออกจากชายแดนฉนวนกาซาและอียิปต์
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่ปรับเพิ่มขึ้นก่อนเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในสภาวะตึงตัว นอกจากนี้ ตลาดคาดว่าอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคอาจได้รับผลกระทบในวงจำกัดจากมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐต่อรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียส่งออกน้ำมันดีเซลไปยังตุรกีและบราซิลเป็นหลัก