ราคาน้ำมันดิบ (22 ม.ค. 68) ปรับลด หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด

ราคาน้ำมันดิบ

 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลง หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลงจากตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ และอาจจะหยุดซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา โดยสหรัฐเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับที่ 2 รองจากจีน

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 21 ม.ค. 2567 อยู่ที่ 75.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.99 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 79.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.86 เหรียญสหรัฐ

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลงทั้งในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาดจากการผลิตน้ำมันของสหรัฐอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถึงแม้ว่าปริมาณการผลิตของกลุ่ม OPEC+ จะลดลงประมาณ 5.86 ล้านบาร์เรลต่อวันก็ตาม ในขณะที่อุปสงค์น้ำมันดิบยังจำกัดจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบางทั้งสหรัฐและจีน

ทรัมป์ปรับเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าน้ำมันจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% เป็นเดือน ก.พ. 68 แทนที่จะเป็นวันแรกที่เข้ารับตำแหน่งตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ การเลื่อนกำหนดการดังกล่าวช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับการตึงตัวอย่างฉับพลันของอุปทานน้ำมันดิบของโรงกลั่นในสหรัฐออกไป

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขการส่งออกน้ำมันเบนซินของจีนในปี’67 อยู่ที่ระดับ 9.74 ล้านตัน ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี สะท้อนอุปสงค์น้ำมันเบนซินในภูมิภาคที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. ก่อนถึงเทศกาลรอมฎอน

ADVERTISMENT

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากการกลับมาดำเนินการตามปกติของโรงกลั่นในเกาหลีใต้หลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุง ประกอบกับตัวเลขการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียประจำสัปดาห์ ณ สิ้นสุดวันที่ 19 ม.ค. 68 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 24% แตะระดับ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์แม้จะมีการคว่ำบาตร

ADVERTISMENT