ราคาน้ำมันดิบ (24 ม.ค.) ปรับลด หลังทรัมป์เรียกร้องกลุ่มโอเปกลดราคาน้ำมันดิบลง

ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลง หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” เรียกร้องกลุ่มโอเปกลดราคาน้ำมันดิบลง

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลง หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เรียกร้องให้ประเทศซาอุดีอาระเบีย และโอเปกลดราคาน้ำมันดิบ ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในงาน World Economic Forum ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่งผลให้ตลาดกังวลท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐต่อนโยบายด้านพลังงาน

ตลาดยังคงจับตา และกังวลต่อท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐต่อนโยบายด้านภาษีศุลกากรที่จะปรับเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป แคนาดา และเม็กซิโก รวมถึงการขู่ที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าต่อรัสเซีย ถ้าหากไม่ยอมทำข้อตกลงยุติการทำสงครามกับยูเครน ในส่วนของจีนยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ส่งผลให้ตลาดน้ำมันมีความผันผวนมากขึ้น

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน หรือ EIA เผยตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐปรับตัวลดลง 1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 412 ล้านบาร์เรล โดยลดลงน้อยกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ถึงแม้ว่ากำลังการกลั่นน้ำมันในสหรัฐจะปรับตัวลดลง จากโรงกลั่นแถวอ่าวเม็กซิโก ได้ปิดซ่อมบำรุงในช่วงเดือนนี้

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของท่าเรือฟูไจราห์ปรับตัวลดลงมากกว่าร้อยละ 13 ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ม.ค. รวมไปถึงปริมาณน้ำมันเบนซินของซาอุดีอาระเบียก็ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.84 แตะระดับ 3.33 ล้านตัน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งของประเทศซาอุดีอาระเบียได้กลับมาดำเนินการตามปกติหลังจากปิดซ่อมบำรุงไปในช่วงเดือน พ.ย. 67 ส่งผลให้มีอุปทานน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดีเซลจะลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าก๊าซธรรมชาติเหลวและพลังงานชนิดใหม่อื่น ๆ จะเข้ามาแทนที่การบริโภคน้ำมันดีเซลในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น

ADVERTISMENT