ทำความรู้จัก UGT1 คืออะไร 4.21 บาทมาจากไหน กระทบไฟบ้านหรือไม่

พลังงานสะอาด-อีวี

ประเทศไทยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใช้บริการอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียวแบบไม่เจาะจงแหล่งที่มา (Utility Green Tariff 1 : UGT1) มาตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชน ที่ต้องการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า รวมถึงตอบความต้องการให้กับภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ Net-zero emissions เข้ามายื่นขอใช้บริการไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่ผ่านมาคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เปิดตัวการให้บริการอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวแบบผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เจาะจงแหล่งที่มา (UGT1) ซึ่งการไฟฟ้าได้จัดเตรียม UGT1 ไว้รองรับความต้องการเป็นปริมาณรวมประมาณ 2,000 ล้านหน่วยต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกอบการธุรกิจภาคเอกชนที่มีความจำเป็นหรือมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียวสำหรับการดำเนินธุรกิจ โดยได้กำหนดอัตรา UGT1 เป็นส่วนเพิ่มจากค่าไฟฟ้าตามปกติที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย อีกหน่วยละประมาณ 6 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.21 บาทต่อหน่วย

“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนทำความรู้จัก สรุปให้ชัดว่า UGT คืออะไร มาจากไหน กระทบค่าไฟหรือไม่ และมีประโยชน์กับใคร

UGT คืออะไร

UGT ย่อมาจาก Utility Green Tariff หรืออัตราการเก็บค่าบริการสำหรับไฟฟ้าสีเขียว ซึ่งไฟฟ้าสีเขียวจะได้มาจากพลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ เป็นต้น โดยจะมีใบรับรองการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate หรือ REC) ควบคู่มาด้วย ซึ่งประเทศไทยถือว่าเป็นรายแรก ๆ ของภูมิภาคเอเชียที่มีการเปิดซื้อขายไฟสีเขียวในรูปแบบนี้รองจากอินเดีย มาเลเซีย เกาหลี และญี่ปุ่น

โดยรูปแบบของประเทศไทย ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดจะทำสัญญาซื้อขายและจำหน่ายไฟฟ้าให้ 3 การไฟฟ้า ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แล้วหลังจากนั้นทั้ง 3 การไฟฟ้าจะส่งจ่ายไฟฟ้าสีเขียวให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ทำสัญญาซื้อไฟสีเขียว

UGT1 ลอตแรก 2 พันล้านหน่วย มาจากไหนบ้าง

การไฟฟ้าได้จัดเตรียม UGT1 ไว้รองรับความต้องการเป็นปริมาณการผลิตรวมประมาณ 2,000 ล้านหน่วยต่อปี มาจากโรงไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต รวม 1,135 เมกะวัตต์ ได้แก่

ADVERTISMENT
  • พลังน้ำเขื่อนสิรินธร กำลังผลิต 36 เมกะวัตต์
  • โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ กำลังผลิต 40 เมกะวัตต์
  • โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิริกิติ์ กำลังผลิต 500 เมกะวัตต์
  • โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนบางลาง กำลังผลิต 84 เมกะวัตต์
  • โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนท่าทุ่งนา กำลังผลิต 39 เมกะวัตต์
  • โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ กำลังผลิต 300 เมกะวัตต์
  • โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนปากมูล 136 เมกะวัตต์

UGT1 และ UGT2 ต่างกันอย่างไร 

UGT1

  • เป็นการให้บริการจัดหาและเคลม REC จากโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม เพิ่มเติมจากการให้บริการไฟฟ้าตามปกติ
  • การไฟฟ้าจะเป็นผู้รวบรวมคำสั่งซื้อจากผู้ใช้ไฟฟ้าแต่ละรายโดยไม่เจาะจงแหล่งที่มา แล้วส่งมอบไฟฟ้าที่มีการเคลม REG อย่างถูกตาม ตามปริมาณที่สั่งซื้อ
  • คิดเพิ่มเฉพาะส่วนที่เป็นการให้บริการของ REC
  • เป็น Uniform Tariff
  • โดยมีอายุสัญญา 1 ปี

UGT2

ADVERTISMENT
  • ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องเจาะจงกลุ่มโรงไฟฟ้า (Portfolio) ในการรับบริการและเป็นผู้รับภาระการพัฒนาโรงไฟฟ้า RE ใหม่
  • การไฟฟ้าจะเป็นผู้ทำสัญญา คือ ผลิตและส่งไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง โดยเช่าสายส่งจากภาครัฐในการนำจ่ายไฟฟ้า ตามแต่ละ Portfolio ซึ่งมีอายุสัญญา 10-25 ปี
  • อัตราค่าบริการกำหนดจากต้นทุนในการให้บริการพลังงานไฟฟ้าและ REC ของแต่ละ Portfolio รวมถึงข้อกำหนดของ กกพ.
  • ออกแบบโครงสร้างใหม่ ไม่แบ่งตามช่วงเวลาการใช้
  • ขณะนี้ 3 การไฟฟ้าอยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมด้านอัตราและวิธีการคาดว่าจะมีความชัดเจนและประกาศออกไปในช่วงเดือนมิถุนายน 2568

ที่มา : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

4.21 บาท/หน่วย มาจากไหน ประชาชนต้องจ่ายหรือไม่ 

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า อัตรา UGT1 เป็นส่วนเพิ่มค่าความสะอาดจากค่าไฟฟ้าตามปกติที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย อีกหน่วยละประมาณ 6 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.21 บาทต่อหน่วย โดยค่าส่วนเพิ่มดังกล่าวจะเรียกเก็บเฉพาะผู้ที่ใช้ไฟฟ้า UGT1 เท่านั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไป

UGT1 = อัตราค่าไฟฟ้าปกติรวม Ft + ค่า Premium

ซึ่งอัตราค่า Premium = 0.0594 บาท/หน่วย (ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือน มกราคม 2568 เป็นต้นไป)

ดังนั้น ในบิลค่าไฟจะระบุตัวเลขอัตราค่าความสะอาดที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน และระบุเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนใช้ไฟสะอาด ดังนั้นจะไม่ปะปนและไม่กระทบกับค่าไฟภาคประชาชนอย่างแน่นอน

ลงทะเบียนผ่าน กฟน.

การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้เปิดให้บริการ UGT1 กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3, 4 และ 5 เป็นกลุ่มแรก โดยที่ผู้ประสงค์ขอใช้บริการอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียว UGT1 เพียงมีคุณสมบัติ ไม่มีประวัติค้างชำระกับการไฟฟ้านครหลวง และไม่มีคดีความเกี่ยวกับการละเมิดใช้ไฟฟ้า ณ วันที่สมัครใช้บริการ

ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในพื้นที่ให้บริการของการไฟฟ้านครหลวง (กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ) และมีความประสงค์จะขอใช้บริการอัตราค่าไฟฟ้า UGT1 สามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการลงทะเบียน และลงทะเบียนได้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 โดยช่องทางเว็บไซต์ www.mea.or.th หรือแพลตฟอร์ม (https://eservice.mea.or.th/ugt/)

1) ผู้สมัคร ลงทะเบียนเข้าใช้งาน โดยกรอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลของนิติบุคคลให้ครบถ้วน พร้อมทั้งอัพโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามที่ระบุไว้บนหน้าเว็บไซต์ เช่น เอกสารที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นนิติบุคคล เอกสารการมอบอำนาจดำเนินการลงทะเบียน

2) เมื่อเอกสารของผู้ขอใช้บริการ ได้รับการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องจาก กฟน.แล้ว ผู้ขอใช้บริการจะสามารถเลือกและยืนยันปริมาณพลังงานไฟฟ้าสีเขียวที่ต้องการได้ในแต่ละเดือนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

3) ผู้ขอใช้บริการ เข้าจองปริมาณพลังงานไฟฟ้าสีเขียวที่ต้องการผ่านหน้าเว็บไซต์ กฟน. โดยระบบจะจัดสรรในรูปแบบ First Come, First Served

4) ผู้ขอใช้บริการที่ได้รับการจัดสรรพลังงาน จะต้องดำเนินการลงนามข้อตกลงเพิ่มเติมสำหรับการใช้บริการอัตรา UGT1 ก่อนเริ่มให้บริการ

ลงทะเบียนผ่าน กฟภ.

กฟภ. ได้เปิดรับสมัครผู้ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 เป็นต้นมา ผู้สนใจสามารถสมัครใช้บริการผ่านแพลตฟอร์ม ugt.pea.co.th ซึ่งได้รับการออกแบบให้เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ไฟฟ้า หลังจากการยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถระบุปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียวและยื่นคิวผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้

ที่ผ่านมา กฟภ.ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องผ่านเว็บไซต์ กฟภ. และช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และมีผู้ใช้ไฟฟ้าจากกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มเคมีภัณฑ์ และกลุ่มปิโตรเคมี ให้ความสนใจและเข้ามาลงทะเบียนแล้ว หากผู้ใช้ไฟฟ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อ PEA Contact Center 1129 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

มีใครบ้างที่ต้องการใช้บริการพลังงานไฟฟ้าสีเขียว

• องค์กรที่มีการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG EMISSIONS)
• องค์กรที่มีการกำหนดเป้าหมาย Carbon Neutrality/Net Zero Emissions
• กลุ่มสมาชิก RE100/บริษัทที่มีนโยบายการใช้พลังงานหมุนเวียน
• บริษัทที่มีการจัดทำรายงานความยั่งยืน ESG

ทั้งนี้ จากการเปิดให้บริการที่ผ่านมาได้มีผู้ติดต่อลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้บริการแล้วประมาณ 600 ล้านหน่วย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศที่นำไปใช้ในการจัดทำรายงานการปล่อยก๊าซ ตามนโยบายของบริษัทแม่หรือบริษัทคู่ค้า บริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ต้องการการรับรองไฟฟ้าสีเขียวเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนพลังงานสะอาดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น ธุรกิจการเงินการธนาคาร อุตสาหกรรมการผลิต ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

ดังนั้น UGT จึงไม่เพียงช่วยตอบความต้องการให้กับภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ Net-zero emissions และมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียวในประเทศไทย แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพขีดความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจของไทย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวในระดับภูมิภาค เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล