ขายไฟฟ้าสีเขียว 4.21 บาท ส่งให้ภาคอุตฯใน เม.ย.68

electric
ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พร้อม 3 การไฟฟ้า เปิดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (UGT1) ครั้งแรกในไทย 4.21 บาท/หน่วย เตรียมปริมาณไฟรองรับความต้องการ 2,000 ล้านหน่วย จาก 7 เขื่อน เผยกลุ่มห้าง ค้าปลีก แบงก์ ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ แห่สมัครแล้วกว่า 600 ล้านหน่วย พร้อมส่งให้ผู้ใช้ไฟภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายน 2568 หวังเป็นก้าวสำคัญหนุนเพิ่มทางเลือกรับบริการไฟฟ้าสะอาด ดึงการลงทุนเข้าประเทศ

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้เปิดให้บริการอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวแบบผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เจาะจงแหล่งที่มา หรือ Utility Green Tariff (UGT1) โดยเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกอบการธุรกิจภาคเอกชนที่มีความจำเป็น หรือมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียวสำหรับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเตรียมการออกเอกสารรับรองไฟฟ้าสะอาด หรือ REC ตามมาตรฐาน I-REC ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลด้วย

สำหรับการกำหนดอัตรา UGT1 เป็นส่วนเพิ่มค่าความสะอาด จากค่าไฟฟ้าตามปกติที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย อีกหน่วยละประมาณ 6 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.21 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะไม่กระทบกับค่าไฟฟ้าบ้าน หรือค่าไฟของภาคประชาชน

โดยการไฟฟ้าได้จัดเตรียม UGT1 ไว้รองรับความต้องการเป็นปริมาณรวมประมาณ 2,000 ล้านหน่วยต่อปี มาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร กำลังผลิต 36 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ กำลังผลิต 40 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิริกิติ์ กำลังผลิต 500 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนบางลาง กำลังผลิต 84 เมกะวัตต์

โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนท่าทุ่งนา กำลังผลิต 39 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ กำลังผลิต 300 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนปากมูล 136 เมกะวัตต์ รวม 1,135 เมกะวัตต์

สำหรับผู้ประสงค์ขอใช้บริการอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียว UGT1 ในพื้นที่ กฟน.ได้เปิดให้บริการ UGT1 กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3, 4 และ 5 เป็นกลุ่มแรก

ADVERTISMENT

โดยคุณสมบัติไม่มีประวัติค้างชำระกับการไฟฟ้านครหลวง และไม่มีคดีความเกี่ยวกับการละเมิดใช้ไฟฟ้า ณ วันที่สมัครใช้ ส่วนในพื้นที่ กฟภ. ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถระบุปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียวและยื่นคิวในระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของ กฟภ.

หลังเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 มีผู้ติดต่อลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้บริการแล้วประมาณ 600 ล้านหน่วย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศที่นำไปใช้ในการจัดทำรายงานการปล่อยก๊าซตามนโยบายของบริษัทแม่หรือบริษัทคู่ค้า บริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ต้องการการรับรองไฟฟ้าสีเขียว เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนพลังงานสะอาดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น ธุรกิจการเงินการธนาคาร อุตสาหกรรมการผลิต อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี ห้างสรรพสินค้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและตรวจสอบเอกสาร

ADVERTISMENT

ซึ่งมั่นใจว่าปริมาณไฟฟ้าสีเขียวจะมีปริมาณเพียงพอในการรองรับความต้องการไฟฟ้าสีเขียวรูปแบบนี้ของภาคเอกชนในช่วงแรกได้ทั้งหมด และคาดว่าไฟฟ้าสีเขียวจะส่งให้ผู้ใช้ไฟภาคอุตสาหกรรมได้ประมาณเดือนเมษายน 2568

โดยในช่วงต่อไปจะมีการเปิดให้บริการไฟฟ้าสีเขียวแบบผู้ใช้ไฟฟ้าเจาะจงแหล่งที่มา (UGT2) ซึ่งขณะนี้ได้มีการหารือร่วมกันระหว่าง 3 การไฟฟ้า อยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมด้านอัตราและวิธีการ คาดว่าจะมีความชัดเจนและประกาศออกไปในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 และ Direct PPA เพิ่มเติม

ดังนั้น UGT จึงไม่เพียงช่วยตอบความต้องการให้กับภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ Net-Zero Emissions และมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียวในประเทศไทย แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพขีดความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจของไทย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวในระดับภูมิภาค เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล

“ในบิลค่าไฟจะระบุตัวเลขอัตราค่าความสะอาดที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน และระบุเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนใช้ไฟสะอาด ดังนั้น จะไม่ปะปนและไม่กระทบกับค่าไฟภาคประชาชนอย่างแน่นอน”