
กรมพัฒน์เปิด 10 อันดับธุรกิจดาวเด่น ปี 2568 อิงจากสถิติและข้อมูลธุรกิจในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยธุรกิจประเภทไลฟ์สไตล์-บริหารธุรกิจ-เทคโนโลยี นอกจากนี้ยังมีแผนส่งเสริมธุรกิจไทย 4 ด้าน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดทำข้อมูลธุรกิจเพื่อวิเคราะห์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ และเฟ้นหา 10 ธุรกิจดาวเด่นที่น่าจับตามอง ปี 2568 ประเมินข้อมูลธุรกิจจากทั้งสถิติข้อมูลภายในปีที่ผ่านมา
ตั้งแต่สถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ มูลค่าทุนจดทะเบียน แนวโน้มการเติบโต ผลประกอบการของธุรกิจ ร่วมกับข้อมูลปัจจัยทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจต่าง ๆ โดยมีปัจจัยสนับสนุน ดังนี้
- แนวโน้มเศรษฐกิจ : การฟื้นตัวหลังวิกฤตเศรษฐกิจ และการระบาดของโรคโควิด-19
- นโยบายรัฐบาล : การสนับสนุนภาคธุรกิจในเชิงรุก
- พฤติกรรมผู้บริโภค : การให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความสะดวกสบาน และเทคโนโลยี
- เทรนด์โลก : การมุ่งสู่ดิจิทัล และความยั่งยืนในทุกภาคส่วน
กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์
รูปแบบพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ และการสร้างความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ
1. ธุรกิจการท่องเที่ยวและกิจกรรมในครอบครัว ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและที่พัก ธุรกิจร้านอาหาร/ผับบาร์ ธุรกิจการแสดงโชว์และความบันเทิง รวมทั้งธุรกิจกิจกรรมสำหรับครอบครัว เช่น สวนสัตว์ สถานที่พักผ่อนตามธรรมชาติ
ข้อมูลในปี 2567 ระบุว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 6,667 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 458 ราย คิดเป็น 7.38% มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ 16,253.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 2,269.54 ล้านบาท คิดเป็น 16.23% รายได้รวมของธุรกิจในปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 753,308.31 ล้านบาท
2. ธุรกิจ Health & Wellness เช่น ธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจทันตกรรม ธุรกิจกายภาพบำบัด และธุรกิจการดูแลสุขภาพอื่น ๆ
ข้อมูลในปี 2566 ระบุว่า ธุรกิจมีรายได้รวม 357,988.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 5,464.77 ล้านบาท และปี 2567 มีจำนวนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่จำนวน 912 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 5,212.27 ล้านบาท
3. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง เช่น ธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยง ผลิต/จำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจรักษาสัตว์เลี้ยง
ข้อมูลในปี 2567 ระบุว่า มีจำนวนธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จำนวน 206 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 400.12 ล้านบาท และรายได้รวมปี 2566 มีมูลค่า 76,066.28 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,310.31 ล้านบาท
4. ธุรกิจสายมู (มูเตลู) ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจนี้ยังคงมีการจดทะเบียนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลในปี 2567 ระบุว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 38 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 5 ราย และเพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 14 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 27.72 ล้านบาท โดยธุรกิจนี้ยังคงได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ท่ามกลางความต้องการที่พึ่งทางด้านจิตใจ
5. ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ เช่น ธุรกิจผลิตภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ ธุรกิจตัดต่อภาพและเสียง ธุรกิจกราฟิกแอนิเมชั่นและเทคนิคพิเศษ และธุรกิจสอนการแสดง
ข้อมูลในปี 2567 ระบุว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 293 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 18 ราย และเพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 37 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 719.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 346.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 92.86%
6. ธุรกิจปรับปรุงและตกแต่งอาคาร เช่น ธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน ธุรกิจซ่อมแซมอาคาร โดยปัจจุบันผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะปรับปรุงที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น แทนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ใหม่
ข้อมูลในปี 2566 ระบุว่า ธุรกิจปรับปรุงและตกแต่งอาคาร มีรายได้รวม 100,897.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 11,585.19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.97% และเพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 26,723.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.03% และปี 2567 มีนิติบุคคลจัดตั้งใหม่จำนวน 993 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 1,510.21 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยี
เป็นกลุ่มที่เป็นเทรนด์ธุรกิจของโลกที่ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ก้าวข้ามขีดจำกัดและสามารถตอบสนองต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์และการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย
7. ธุรกิจ Data Center และ Software เช่น ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์สำเร็จรูป ธุรกิจบริการ Data Center ธุรกิจจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเว็บเพจ เป็นต้น โดยธุรกิจนี้มีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลในปี 2566 ระบุว่า ธุรกิจมีรายได้รวม 110,500.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 5 ปีก่อน จำนวน 50,960.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 85.59%
8. ธุรกิจ e-Commerce เช่น ธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต ธุรกิจคลังสินค้าและการจัดเก็บสินค้า ธุรกิจตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธีสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจนี้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ข้อมูลในปี 2567 ระบุว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 2,219 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 318 ราย และเพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 572 ราย เพิ่มขึ้น 16.73% และ 34.73% ตามลำดับ มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 3,361.23 ล้านบาท โดยรายได้รวมในปี 2566 มีมูลค่า 279,787.83 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,442.28 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการธุรกิจ
กลุ่มธุรกิจนี้เป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เฉพาะด้านในการบริหารจัดการเรื่องการประกอบธุรกิจ การให้คำปรึกษา การจัดหาบุคลากรหรือผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่ช่วยเหลือธุรกิจให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ตรงเป้าหมาย โดยธุรกิจที่มีความโดดเด่น ประกอบด้วย
9. ธุรกิจการบริหารจัดการธุรกิจ เช่น ธุรกิจสำนักงานบัญชี ธุรกิจสำนักงานกฎหมาย ธุรกิจการจ้างงานบุคคลภายนอก (Outsource) โดยธุรกิจการบริการจัดการธุรกิจ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการประกอบธุรกิจยุคปัจจุบัน
ข้อมูลในปี 2567 ระบุว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 4,296 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 181 ราย และเพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 806 ราย หรือ เพิ่มขึ้น 4.40% และ 23.09% ตามลำดับ มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 6,521.44 ล้านบาท โดยธุรกิจการบริหารจัดการธุรกิจมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นและต่อเนื่องช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563-2567)
10. ธุรกิจที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ธุรกิจการวิจัยและพัฒนาเชิงทดลอง ธุรกิจการให้บริการเกี่ยวกับสิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น คาร์บอนเครดิต
ข้อมูลในปี 2567 ระบุว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 338 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 86 ราย และเพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 159 ราย หรือเพิ่มขึ้น 34.13% และ 88.83% ตามลำดับ มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 1,832.10 ล้านบาท
โดยปี 2566 ธุรกิจที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม มีรายได้รวม 41,408.69 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2566)
เตรียมแผนส่งเสริมธุรกิจ 2568
ในปี 2568 กรมจะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจไทยด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งด้านการจดทะเบียนนิติบุคคลและบริการข้อมูลธุรกิจที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนด้านความง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยได้เปิดให้บริการระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล หรือ DBD Biz Regist แล้ว เมื่อกลางเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา
พร้อมด้วยฟังก์ชั่นใหม่ ๆ ที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ และกำหนดเปิดให้บริการระบบจดทะเบียนสมาคมการค้าและหอการค้าทางออนไลน์
ซึ่งจะทำให้บริการดิจิทัลของกรม ทุกกระบวนงานสามารถใช้งานได้สมบูรณ์ 100% ประกอบกับยังคงขับเคลื่อนการยกเลิกเรียกเอกสารราชการ โดยเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมใน ปี 2568 อีก 25 หน่วยงาน และตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมทั้ง 74 หน่วยงาน ภายในปี 2570
ด้านการส่งเสริมธุรกิจ มีแผนพัฒนาธุรกิจใน 4 ด้าน คือ
1) เพิ่มศักยภาพธุรกิจ จัดกิจกรรมให้ความรู้ที่สอดรับกับเทรนด์การค้าโลก พร้อมด้วยการใช้เทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการในประเภทต่าง ๆ อาทิ การสร้างเครือข่ายธุรกิจ, ร้านสมาร์ทโชห่วย, ธุรกิจบริการผู้สูงอายุ และร้านอาหาร
2) กระตุ้นการค้าออนไลน์ ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นให้ธุรกิจด้วยเครื่องหมาย DBD Registered โฉมใหม่ เปิดใช้ในเดือนเมษายน 2568 ที่จะเชื่อมโยงกับหน่วยงานภายนอกด้วย
3) เข้าถึงแหล่งทุนด้วยหลักประกันทางธุรกิจ กรมยังคงเดินหน้าแนะนำช่องทางการเงินให้ธุรกิจสามารถนำทรัพย์สินมาใช้เป็นหลักประกันเพื่อเข้าถึงเงินทุนที่มากขึ้นทำให้ธุรกิจมีเส้นทางการพัฒนาต่อไป
4) การขยายช่องทางการตลาดให้ธุรกิจมีโอกาสได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในธุรกิจแฟรนไชส์ และสมุนไพรไทย
สุดท้ายด้านการสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ กรมอยู่ระหว่างการจัดทำระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล หรือ Intelligence Business Analytic System (IBAS) ที่จะช่วยให้กรมและพันธมิตรสามารถจับตามองธุรกิจที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายและป้องปรามได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบ e-Accountant เพื่อรองรับผู้ทำบัญชีที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นให้ใช้งานระบบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
