
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังคาดการณ์ว่าทรัมป์เริ่มตั้งกำแพงภาษี แคนาดาและเม็กซิโกภายในอาทิตย์นี้ และความไม่สงบในลิเบีย
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังประธานาธิปดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ คาดจะเริ่มแผนการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าแคนาดาและเม็กซิโก 25% ภายในวันที่ 1 ก.พ. 68 ส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบอาจตึงตัวมากขึ้น จากอุปทานน้ำมันดิบที่ลดลงจากแคนาดาและเม็กซิโก
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 28 ม.ค. 2568 อยู่ที่ 73.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.60 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 77.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ตลาดกังวลเหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบีย หลังล่าสุดกลุ่มผู้ประท้วงได้ปิดแหล่งผลิตน้ำมัน 2 จุดชั่วคราว ซึ่งเป็นจุดถ่ายน้ำมันดิบ Es Sider และ Ras Lanuf เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบรวมราว 0.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ได้มีการเจรจาคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว และทางแหล่งผลิตน้ำมันดิบลิเบียได้กลับมาดำเนินการผลิตแล้ว
หลังตลาดปิดสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณ น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค. 68 ปรับเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังเกาหลีใต้เดือน ธ.ค. 67 ปรับเพิ่ม 4.95% เทียบกับเดือน พ.ย. 67 แตะระดับ 22.88 ล้านบาร์เรล ขณะที่อินเดียส่งออกน้ำมันเบนซินเดือน ธ.ค. 67 เพิ่มขึ้น 18.79% เทียบกับเดือน พ.ย. 67 สู่ระดับ 4.38 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม โรงกลั่นสหรัฐขนาด 0.63 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มปิดซ่อมบำรุงเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 68
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังเกาหลีใต้ส่งออกน้ำมันดีเซลเดือน ธ.ค. 67 ลดลง 2.7% สู่ระดับ 16.93 ล้านบาร์เรล เทียบกับเดือน พ.ย. 67 ขณะที่ตลาดยังคงกังวลอุปทานน้ำมันดีเซลตึงตัวจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากสหรัฐ อย่างไรก็ตาม อินเดียส่งออกน้ำมันดีเซลเดือน ธ.ค. 67 เพิ่มขึ้น 8.74% แตะระดับ 2.49 ล้านตัน เทียบกับเดือน พ.ย. 67