
“เฉลิมชัย” สั่งระดมกำลัง จนท.ดับไฟป่า พร้อมสนับสนุนทีม ฮ.ทส. ผนึกกำลังท้องถิ่น เร่งควบคุมไฟป่า วน.เขาหลวง อุทัยธานี นครสวรรค์
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่วนอุทยานเขาหลวง บริเวณรอยต่อระหว่างพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และอุทัยธานี มีสถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วง จึงได้สั่งการด่วนให้ส่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฮ.ทส.) เข้าร่วมสนับสนุนกับทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) นครสวรรค์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) อุทัยธานี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 12 นครสวรรค์
และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ (สจป.) ที่ 4 ตาก ในการบินสำรวจพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 มกราคม 2568 พบไฟป่ากระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ที่มีเชื้อเพลิงสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะไผ่ตายขุย โดยส่วนมากอยู่ในพื้นที่เขาสูงชัน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นเข้าถึงได้ยาก
ได้สั่งการให้สนับสนุน ฮ.ทส. เข้าร่วมปฏิบัติการในพื้นที่ จำนวน 2 ลำ เพื่อสนับสนุนการบินสำรวจสถานการณ์ไฟป่าและบินทิ้งน้ำดับไฟป่า พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ภาคพื้นชุดดับไฟป่า จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช (อส.) และกรมป่าไม้ (ปม.) จำนวน 100 นาย บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้ง ปภ.นครสวรรค์ กรมการปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสา เพื่อเปิดยุทธการการดับไฟป่าในพื้นที่ วน.เขาหลวง เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว
นายเฉลิมชัยกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ยังได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า และเครือข่ายชุมชนป้องกันและควบคุมไฟป่า พร้อมมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฮ.ทส.) ตรวจสภาพป่าและพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าเส้นทางจากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ถึงอุทยานแห่งชาติแม่ปิง
พร้อมตรวจเยี่ยมกำลังพลและมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ “กลุ่มป่าเขื่อนภูมิพล” และเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความร่วมมือ การป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง กับชุมชนทั้งในและรอบพื้นที่ จำนวน 21 หมู่บ้าน ณ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน
ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จับตาเฝ้าระวังสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่กลุ่มป่าภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันตก อย่างใกล้ชิด เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่มีสภาพแห้งแล้ง และมีการสะสมของเชื้อเพลิง เช่น เศษไม้ใบไม้ ที่ไวต่อการเกิดไฟเป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ป่าทางด้านตะวันตกของประเทศในหลายพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท นครสวรรค์ อุทัยธานี
จึงได้กำชับสั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสนับสนุนดับไฟป่า เร่งกำจัดเชื้อเพลิงที่สะสมอยู่ จัดทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันการลามของไฟเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ป่า และเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมถึงสั่งการให้ ฮ.ทส.เข้าเตรียมพร้อมในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนการดับไฟป่าอย่างทันท่วงที ไม่ให้เกิดการลุกลาม และสามารถดับไฟได้อย่างรวดเร็ว
อีกทั้งยังเสริมกำลังของเจ้าหน้าที่แล้ว กำลังเสริมอีกส่วนที่สำคัญ คือ กำลังของเครือข่ายพี่น้องประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ต้องช่วยกันเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าในพื้นที่หรือเกิดให้น้อยที่สุด ซึ่งในวันนี้เราได้มีการลงนามความร่วมมือกับชุมชนในพื้นที่รอบป่า เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ผ่านกลไกการขับเคลื่อนในระดับท้องถิ่น
เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการไฟป่าและหมอกควัน เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพัฒนาในมิติอื่น ๆ และเกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และรัฐบาลยังได้อนุมัติงบฯกลางในปี 2568 ทั้งในเรื่องวัสดุอุปกรณ์ การจ้างบุคลากรในการเข้ามาดูแลพื้นที่และปัญหาไฟป่า เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและรับมือกับสถานการณ์ของไฟป่าและหมอกควัน รวมถึงปัญหาฝุ่นละออง วันนี้จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ช่วยกันป้องกัน สอดส่อง ดูแล และเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟป่าในพื้นที่ของพวกเราอย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป