กัลฟ์ ทุ่มปีนี้ 2-3 หมื่นล้าน ลุยพลังงานสะอาด

กัลฟ์ฯหนุนรัฐลดค่าไฟให้เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย เผยไร้ผลกระทบเพราะขายไฟส่วนใหญ่ตรงให้ กฟผ. เหลือแค่ 6% ให้อุตสาหกรรม ปีนี้เตรียมงบฯลงทุน 2-3 หมื่นล้าน ลุยพลังงานสะอาด คาดรายได้โต 15-20% ชี้ประมูลไฟฟ้าหมุนเวียน FiT เฟส 2 ไม่เกี่ยวกัลฟ์ฯ เพราะได้รอบแรกแล้ว เตรียมรอเข้าประมูลรอบใหม่

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเห็นด้วยกับนโยบายการลดค่าไฟของรัฐบาล ซึ่งกัลฟ์ฯไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากขายไฟฟ้าให้กับอุตสาหกรรมแค่ 6% และขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 94% ดังนั้น จึงไม่มีผลกระทบกับด้านการเงินของกัลฟ์ฯนางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์

สำหรับกำลังการผลิตใหม่ ในส่วนของโรงไฟฟ้าในปีนี้ บริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมค้าที่ถือหุ้นร่วมกับบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 49% และ 51% ตามลำดับ โดยเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (IPP) ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าหินกอง (HKP) ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์หน่วยผลิตที่ 2 ซึ่งเป็นหน่วยการผลิตสุดท้ายของโครงการ มีขนาดกำลังการผลิตตามสัญญา 700 เมกะวัตต์ โดยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของ กฟผ. เป็นที่เรียบร้อยตามกำหนด นอกจากนี้ มีโซลาร์ และโซลาร์แบตเตอรี่ ปลายปีนี้น่าจะเปิดอีก 7 โครงการ และโซลาร์รูฟท็อปที่ทยอยออกไป รวม ๆ แล้วประมาณ 1,500 เมกะวัตต์

“สำหรับการขยายการลงทุนในต่างประเทศ เราก็ดูอยู่หลายโครงการ เช่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา เอเชีย พิจารณาในเรื่องของผลตอบแทน ความเสี่ยงหลาย ๆ อย่าง จำเป็นต้องเลือกโครงการที่ Synergy และผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท” นางสาวยุพาพินกล่าว

ขณะนี้กัลฟ์ฯมี Data Center ประมาณ 25 เมกะวัตต์อยู่แล้ว จะทยอยเปิดครบภายในปีนี้ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ราว 2-3 พันล้านบาท และจะขยายไปร่วมกับ AIS-SINGTEL อีกประมาณ 35 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี สามารถรองรับ CPU, Hyperscalr ขนาดใหญ่ได้ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2569 ส่วนความร่วมมือระหว่าง GULF กับ Google อยู่ระหว่างหาลูกค้าพร้อมกัน มีการสั่งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์เข้ามา คาดว่า Q2/68 จะสามารถเปิดให้ Service ได้

นางสาวยุพาพินกล่าวว่า สำหรับปี 2568 บริษัทตั้งงบฯลงทุนไว้ 20,000-30,000 ล้านบาท เป็นพลังงานสะอาด เช่น โซลาร์ ลม และเขื่อน ราว 80% ในส่วนของรายได้ปีนี้ ยังไม่ได้คาดการณ์ไว้ ทั้งกลุ่มอาจจะโต 15-20% เมื่อเทียบกับปี 2567 เพราะกัลฟ์ฯมีการเติบโตค่อนข้างเยอะ ซึ่งปีที่แล้วใกล้เคียงเป้าที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องดูราคาค่าก๊าซด้วย ถ้าราคาก๊าซลง รายได้อาจจะลง แต่กำไรยังคงยืนเท่าเดิม เมื่อมีการเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าหินกอง รวมถึงโรงไฟฟ้าจำนวน 5 แห่ง (โซลาร์ 3 โครงการ, โซลาร์แบตเตอรี่ 2 โครงการ) ที่เริ่มเปิดดำเนินการในเดือนธันวาคม 2567 ซึ่งคาดกว่า Q1/2568 จะสามารถรับรู้กำไรจากส่วนดังกล่าวด้วย

ADVERTISMENT

ส่วนการนำเข้า LNG ในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 70 คาร์โก ราว 5,000,000 ตัน สำหรับใช้ในโครงการ 5,000 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าหินกอง โดยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ได้นำเข้าก๊าซ LNG ลอตแรกเพื่อจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติของกลุ่ม ซึ่งบริษัท กัลฟ์ แอลเอ็นจี จำกัด (Gulf LNG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่กัลฟ์ฯถือหุ้น 100% ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper License) จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในการนำเข้าก๊าซ LNG ปริมาณ 6.4 ล้านตันต่อปี เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าในเครือ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า IPP ทั้งโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) และโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ศรีราชา (GSRC) โครงการโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 19 โครงการ และลูกค้าอุตสาหกรรม

ขณะที่การชะลอรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 หรือไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 นั้น ไม่เกี่ยวกับบริษัท เนื่องจากเป็นลอต 2 สำหรับกลุ่มที่ตกรอบแรก ซึ่งบริษัทไม่ได้อยู่ในส่วนนั้น บริษัทได้ไปหมดแล้วในรอบแรก หากมีการเปิดรอบใหม่ บริษัทก็มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการ

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ กัลฟ์ฯชนะการคัดเลือกโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) มากที่สุดกว่า 20 โครงการ ทั้งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน และพลังงานแสงอาทิตย์ คิดเป็นปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวม 2,000 เมกะวัตต์