นภินทร ดึงกว่า 20 หน่วยงานตั้งชุดคณะทำงาน จัดการนอมินี-สินค้าไม่มีคุณภาพ

นภินทร ศรีสรรพางค์

“นภินทร” รมช.พาณิชย์ เผยหลังประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว เห็นชอบตั้งคณะทำงาน พร้อมดึงกว่า 20 หน่วยงาน เดินหน้า 2 ภารกิจสำคัญ นอมินี-สินค้าไม่มีคุณภาพ ขณะที่ 5 เดือนจับนอมินี 820 คดี เสียหาย 1.24 หมื่นล้าน

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) ครั้งที่ 3/68 ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด โดยมี ร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจตามกฎหมายทุกหน่วยงานร่วมด้วยกว่า 20 หน่วยงาน เพื่อทำหน้าที่ 2 ภารกิจสำคัญคือ ตรวจสอบนอมินี (คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อทำธุรกิจในไทยโดยเลี่ยงทำตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542) และสินค้านำเข้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ เป้าหมายเพื่อต้องการให้ทั้ง 2 ปัญหานี้หมดไปจากประเทศ โดยจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป

สำหรับคณะทำงานชุดนี้จะทำงานเชิงรุก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจตามกฎหมายเกี่ยวกับนอมินี และการนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐานมาทำงานร่วมกัน ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยจะเอกซเรย์ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อกวาดล้างนอมินีและสินค้านำเข้าไม่ได้มาตรฐาน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเร็ว ๆ นี้

สำหรับคณะทำงานชุดนี้จะประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.), จังหวัด, องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น, ตรวจคนเข้าเมือง, ศุลกากร, สำนักงานพาณิชย์จังหวัด, จัดหางานจังหวัด, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมการท่องเที่ยว, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี คณะทำงานชุดดังกล่าวจะต้องรายงานผลการดำเนินงานมายังคณะอนุกรรมการทุกเดือน จากนั้นคณะอนุกรรมการจะรายงานต่อคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มีรมว.พาณิชย์เป็นประธาน ก่อนรายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

ADVERTISMENT

นายนภินทรกล่าวว่า สำหรับผลการปราบปรามนอมินีตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค. 2567 สามารถจับกุมดำเนินคดีธุรกิจนอมินีได้แล้ว 783 คดี มูลค่าความเสียหาย 11,783 ล้านบาท ส่วนเดือน ม.ค. 2568 จับกุมดำเนินคดีเพิ่มได้อีก 37 คดี ความเสียหาย 710 ล้านบาท รวมทั้งหมด 820 คดี ความเสียหาย 12,495 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนอมินีในธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องในพื้นที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์

ส่วนธุรกิจอื่น ๆ เช่น ตลาดออนไลน์ วัสดุก่อสร้าง สำนักงานบัญชี ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระยอง รวมถึงธุรกิจขนส่งสินค้าทางบก ค้าอสังหาริมทรัพย์และเกี่ยวเนื่อง โดยมีทั้งต่างด้าวจากประเทศในยุโรปและเอเชีย

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังอยู่ระหว่างการจัดทำระบบ IBAS เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลนิติบุคคล และจับผิดนิติบุคคลที่มีความเสี่ยงเป็นนอมินี คาดว่า จะแล้วเสร็จในเร็ว ๆ นี้ และยังจัดทำระบบในเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th เพื่อให้สามารถค้นหาได้ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพนำที่อยู่ของบุคคลไปเป็นที่อยู่ของนิติบุตคลบัญชีม้าหรือไม่ หากมี ขอให้แจ้ง และจะส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

ส่วนการจัดการปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (ศูนย์ AOC) สายด่วน 1441 ได้ส่งรายชื่อบุคคลรหัส HR-03 มาให้แล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2568 รวม 204,000 ราย ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า  รายชื่อทั้งหมดมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลในไทยรวม 1,159 ราย และทั้งหมดมีความเสี่ยงที่จะเป็นนิติบุคคลบัญชีม้าหรือธุรกิจสีเทาในไทย

จึงได้ส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจตามกฎหมาย ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง (ซีไอบี), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำเนินการต่อแล้ว